สมุดไทยบันทึกตำรายา และยันต์ ต่าง ๆ เช่น ตำราลักษณะผู้หญิงมาน, ยันต์หน้าไม้แสนเกียง, ยันต์ข่ามละเมาะ, ยันต์ใส่เรือท่านรัก, ยันต์เข้าสงครามชนะศึก, ยันต์ใส่แจ่งเรือนหาภัยบ่ได้, ยันต์หัวใจพระยาเข้าสงคราม, ยันต์ฟันแทงบ่เข้า, ยันต์บุตีบ่ตาย, ยาเจ็บคอ, ยากุมตาขาว, ยาเขียว, ยาเจ็บหัว, ยาตาแจ้ง, ยามะเร็งคุด, ยาลมเกี่ยวเลือด, ยานิ่วเลือด, ยามะโหก, ยาห้ามไข้ ฯลฯ
สมุดไทยบันทึกตำราไสยศาสตร์ เกี่ยวกับ ตำรากามจร, คาถาไล่ผี, คาถาพ่นตาแดง ฯลฯ
สมุดไทยบันทึกตำราไสยศาสตร์ คาถาอาคม ยันต์ต่าง ๆ เช่น คาถาไล่ผี, คาถามนต์น้ำให้ผู้ออกลูกกิน, คาถาพระยาไอศวรย์, คาถานอนที่ร้าย, คาถามนต์กินมิเสี้ยง, คาถาปัดไข้ ฯลฯ มีรอยตัดหน้ากระดาษไปบางส่วนเพื่อนำไปใช้เป็นกระดาษมวนยาสูบ เนื่องจากมีความเชื่อว่าสามารถรักษาโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ
สมุดไทยบันทึกตำราโหราศษสตร์ ทำนาย พยากรณ์ต่าง ๆ และยันต์ เช่น ตำราทำนายนักษัตรปีเกิด, ตำราดูฤกษ์ยาม, ตำรายามอัฐกาลชั้นฉาย, ตำราวันจมวันฟู, ยันต์กันผีเข้า
สมุดไทยบันทึกตำราโหราศาสตร์ต่าง ๆ เช่น ตำราห่วง, ตำราดูวันนุ่งผ้า, ตำรานาควัน, ตำราดูของหาย, ตำราทำนายฝัน ฯลฯ
พระคัมภีร์ผูกนี้ พระครูพัฒนกิจสุนทร(สังข์ ชิตมาโร) ใช้เทศน์ขึ้นธรรมาสน์เป็นผูกแรก เมื่อครั้งจำพรรษาในช่วง 2-3 พรรษาแรกที่วัดนาหนอง ต.ดอนแร่ อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี ลานที่ ๑ หน้า ๑ ระบุ “ธรรมเทศนาอันชื่อว่า ปัญหาราชสูตรแห่งพระพุทธเจ้า” ท้ายลาน “กล่าวยังธรรมเทศนาอันชื่อว่า ปัญหาราชสูตร ก็แล้วเท่านี้ก่อนแล ๚ เสด็จแล้วปีมะเมียเดือน ๘ ขึ้น ๘ ค่ำ วันอาทิตย์ ยามตะวันขึ้น ๔ โมง ๚ หนังสือวัดหนองบัว เจ้าของ ๚ จุรสุมน ๚ แลท่านทั้งหลายเหย๚๛” ที่รูร้อยสายสนองลานหน้าทับต้น และหน้าทับปลาย ใช้แผ่นหนังเจาะรูแล้วเย็บติดใบลาน เพื่อเสริมความแข็งแรง เป็นการยืดอายุการใช้งาน และป้องกันรูร้อยสายสนองแตกอีกด้วย
หน้าทับเค้าลานแรก ระบุ “หน้าทับเค้าหนังสือสักกบรรพแลนายเหย ๚๛” และเขียนอักษรไทยด้วยปากกาลูกลื่นสีดำ “สักกบรรพ์ ๑๐” หน้าทับเค้าลานที่สอง เขียนอักษรไทยด้วยปากกาลูกลื่นสีแดง “สักกะบัน” เขียนเลขอารบิกด้วยปากกาลูกลื่นสีดำไว้ด้านซ้ายลาน ทุกหน้าตั้งแต่ “1-31” และเขียนเลขไทยด้วยปากกาลูกลื่นสีดำไว้ด้านขวาลาน ทุกหน้าตั้งแต่ “๑-๓๑” ท้ายลาน ระบุ “สกฺกบพฺพํ นิฏฺฐิตํ กิริยาอันกล่าวยังปริเทเจทนา อันประดับประดาไปด้วยพระคาถาทั้งหลายได้ ๒๓ พระคาถา ก็สมเร็จเสด็จแล้วเท่านี้ก่อนแลแลนา ๚๛”
หน้าทับเค้าเขียนอักษรไทยด้วยปากกาลูกลื่นสีดำ “นครกัณฑ์ ผูก ๑๓” หน้าทับเค้า ระบุ “หน้าต้นนครซูเซือม่วนอาละแล || มีอยู่ ๔๔ ใบหน้าแล ๚๛” ท้ายลานจารอักษรไทย ระบุ “มหาเวสันตระจาตะกังนิฐิตัง เตสนา นะคะระกันตัง อันประดับประดาไปด้วยพระคาถาว่าได้ ๔๘ พระคาถา ก็สมเร็จเสด็จแล้วเต่านี้ก่อนและ” มีรอยแก้ไขเพิ่มเติมวรรณยุกต์ คำ และขีดเส้นแบ่งคำหรือวรรคด้วยปากกาลูกลื่นสีแดง และสีน้ำเงิน, จารอักษรไทย ๒ หน้าลาน
หน้าทับเค้า เขียนอักษรไทยด้วยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน “มหาวิบาก” หน้าทับเค้าคงนำใบลานเศษที่มีรอยจาร(กลับหัว)เนื้อหากล่าวถึงมหาโมคคัลลานเถรเจ้าแต่ไม่จบ, มีรอยเขียนอักษรไทยด้วยดินสอ เป็นตัวเลขไทยและคำต่างๆ (แจกสระ) มีรอยจารแก้ไขคำผิดมาก ท้ายลาน ระบุ “กล่าวมหาวิบากผูกเดียว ก็สมเร็จเสด็จบอระมวลเท่านี้ก่อนแล ๛ จบแล้ววันภะหัส เดือน ๑๐ ยามค่ำ ยามเจ้าบ้านมาฟังธรรม ข้าก็เขียนจบยามนั้นแล นายเหย ๛ เกิดมายังบ่เคยสักคำเทื่อ ไผอย่าด่าข้าเนอ ข้าฆ่าภ่องเขียน เขียนผูกเดียวนี้แล ครั้นมันผิดที่ไหน ใส่หื้อข้าจิ่มเทอะ ๛ กุศลนาบุญแห่งเขาไปรอดไปถึงบิดามารดาแห่งข้าเทอะ ข้าขอกุศลนาบุญไปรอดญาติกาวงศาพี่น้องทั้งหลายชู่ผู้ชู่คนแด่เทอะ หื้อข้าแด่เทอะ หน้าทับเค้ามหาวิบากผูกเดียวนี้ ข้าเขียนไว้ตั้งแต่ปีมะเมีย เดือน ๑๐ วันพระหัส ยามเมื่อเจ้าบ้านมาฟังธรรมยามใกล้ค่ำแล ข้ากำลังหัดเขียนผูกหนทีคำเดียว ครั้นผิดที่ใดใส่”