ทะเบียนเดิม 72 ตำราหมอดู ตำราหมอดู รูปภาพลงสีสวยงาม
ในหน้ารองสุดท้ายของพับสา ระบุว่า “ข้าพเจ้าพระกาซเรอยู่บ้านเมืองฅอน เป็นผู้เขียนธรรมไว้กับศาสนาพระเจ้า” ศักราช จ.ศ. 1285 (พ.ศ. 2466) สภาพของเอกสาร ห่อกระดาษสาบาง ปกและขอบพับทาสีแดง เขียนด้วยหมึกสีดำ รหัสเอกสารเดิม LPR. 733/2544 ที่มาเอกสาร ดร.อนาโตล เป็ลติเยร์มอบให้
เอกสารโบราณไม่ครบฉบับ เขียนด้วยเส้นหมึกดำและเส้นดินสอ และมีหลายลายมือ และบางหน้าเขียนกลับหัว
เริ่มด้วยบทไหว้ครู จากนั้นกล่าวถึงโคลงกระทู้ 4 และโคลงกระทู้ 8 เรื่องการสั่งสอน เช่น การประพฤติตามจารีต ทำความดี ละเว้นความชั่ว กตัญญูรู้คุณคน อย่าหูเบา ต้องมีจิตใจหนักแน่น เป็นต้น แทรกด้วยเรื่องโหราศาสตร์เช่น การปลูกเรือน การดูเสา การดูฤกษ์ยาม และตำรายาสำหรับรักษาโรคต่างๆ
เอกสารโบราณฉบับนี้ลายมือสวยอ่านง่าย แต่ไม่ครบฉบับเนื้อหาขาดตอนต้นและตอนปลาย มีหน้าที่อักษรเลือนลางประมาณ 17 หน้า และหน้าสมุดไทยที่เขียนกลับหัว 5 หน้า
ลักษณวงศ์ เป็นโอรสของท้าวพรหมทัต วันหนึ่งเมื่อประพาสป่าพบนางยักษ์ตนนึงใช้เล่ห์กลจนลุ่มหลง สั่งประหารลูกเมียตนเอง ฝ่ายมเหสีและพระโอรสรอดจากประหารเพราะเพชรฆาตสงสาร พากันหนึเข้าป่า แต่พลัดพรากจากกัน ลักษณวงศ์ได้ฤาษีชุบเลี้ยงและถ่ายทอดวิชาให้จนเติบใหญ่ก็ขอลาไปตามหามารดาจนพบ ฝ่ายนางทิพเกสรผู้เรียนวิชาสำนักเดียวกันกับลักษณวงศ์ ก็เศร้าโศกเสียใจเพราะฤาษีที่เลี้ยงดูนางเสียชีวิต อยากจะตายตาม แต่ได้นางกินรีช่วยชีวิตไว้ ลักษณวงศ์หลังจากที่พบมารดาและช่วยบิดาจากการทำเสน่ห์ของนางยักษ์แล้วก็ทนคิดถึงนางทิพเกสรไม่ไหว หวังจะรับนางมาเป็นมเหสี จึงออกตามหา หลังจากที่ลักษณวงศ์ตามหาจนพบนางทิพเกสร ก็อยู่กินจนนางท้อง แต่ก็พลัดพรากกันอีกครั้ง เมื่อนางออกตามหาก็ทราบว่าลักษณวงศ์มีชายาอีกคนชื่อ นางยี่สุน สร้างความเสียใจให้นางทิพเกสรมาก นางจึงปลอมตัวเป็นพราหมณ์เกสร เข้าวังไปรับใช้ลักษณวงศ์ สุดท้ายก็ถูกสั่งประหารชีวิต (อ้างอิง https://www.sac.or.th/databases/thailitdir/detail.php?meta_id=218)