หน้าต้น เขียนอักษรไทย ด้วยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน “จะนะสันทะ ผูก ๓” ลานแรก หัวลาน ระบุ “ชนสันธ ผูก ๓” ท้ายลาน ระบุ “ชนสนฺธตติยํ นิฏฺฐิตํ ก็แล้วเป็นห้องเท่านี้ก่อนแล ฯฯ๛” หน้าปลาย ระบุ “ชนสันธะ ผูก ๓” / เขียนอักษรไทย ด้วยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน “จะนะสันทะ ผูก ๓” “วัดหนามพุงดอ”
หน้าต้น ระบุ “ชนสันธะ ผูก ๔ แล” / ลานแรก หัวลาน ระบุ “ชนสันธะ ผูก ๔” ท้ายลาน ระบุ “ชนสนฺธชาตกํ สมตฺตํ สํวณฺณนา ชนสนฺธชาตก อันมีในทวาทสนิบาต ก็สมเร็จเสด็จแล้วเท่านี้ก่อนแล ฯฯ:๛ รัสสภิกขุบุร (บุญ?) บ้านเค้าม่วงเขียน ปางเมื่ออยู่วัดน้อยแคทราย แลนายเหย ข้าเขียนบ่ดีสักน้อย ลางตัวก็ใหญ่ ลางตัวก็น้อย บ่เท่ากันสักตัว แลนาท่านเหย ข้าขอกุศลนาบุญหื้อข้าจิ่มเทอะเนอ กับทั้งเจ้าของใบลานจิ่มเนอ แล้วอย่าไปด่าข้าอยากใคร่ได้บุญเต็มทีแลพี่น้องบ้านทั้งทั้งหลายทั้งศรัทธาตาปู่เหย เอาบุญกับข้าเนอ แล้วข้าขอแผ่ผายไปหาบิดามารดาข้าจิ่มเทอะ ๛ เสด็จปีมะเส็ง เดือน ๖ แรม ๖ ค่ำ วันสี่ ธงชัย แลนาท่านเหย หน้าทับเค้า ชนสันธะ ผูกถ้วน ๔ แแล นายเหย ๚ ๛ จบแล้วเท่านี้ก่อนแลนา”
หน้าต้น เขียนอักษรไทย ด้วยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน “หนังสืบจะตาบ้านเรือน” ท้ายลาน ระบุ “สฬากริวิชฺชาสุตฺตํ กริยาอันกล่าวสังวรรณนาอันแก้ไขยังสฬากริวิชชาสูตร อันมีในทิพมนต์ ก็สมเร็จเสด็จแล้วเท่านี้ก่อนแล ะ๛” / เขียนอักษรไทย ด้วยปากกาเมจิกสีน้ำเงิน “จบแล้วนะพระคุณเจ้าข้า ขอความสวัสดีแก่ท่านผู้อ่านทุกๆ รูปเถิด นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ”
หน้าต้น ระบุ “หน้าต้น วิชชานสูตร แลนายเหย” ท้ายลาน ระบุ “สฬากริวิชฺชาสุตฺตํ กริยาอันกล่าวห้องสังวรรณนาอันแก้ไขมายังสฬากริวิชชาสูตรอันมีในทิพมนต์ ก็แล้วเท่านี้ก่อนแล ฯฯı๛ เสด็จแล้วแล้วยามเมื่อจวนอยา[ก]เพล เวลานาฬิกา ๔ โมงกว่าแล้ว จบบริบูรณ์ เดือน ๔ แรม ๑๔ พร่ำว่าได้วันภะหัส ปีจอ จัตวาศก ตกอยู่ในคิมหันต์ฤดู เดือน ๔ พุทธศักราชล่วงได้ ๒๔๖๔ พระวัสสา รัสสภิกขุภอย บ้านห่าง เขียนหื้อโยมคำบ้านมะโก ไว้ในศาสนา ขอหื้อเพิ่นได้ดั่งใจเจตนา น ปจฺจโย โหตุ เม จบ ฯฯı๛”
หน้าต้น เขียนอักษรธรรมล้านนา ด้วยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน “(สลากริวิซาสุฑและ)” และอักษรไทย “(เก็บมาจากวัดทุ่งตาล) ข้าพเจ้าได้อ่านทานดูแล้วน่าใช้ได้ พระกิตติปาโล (ปุย) XXXพันธ์” ลานแรก หัวลาน ระบุ “วิชานสูตรแล” ท้ายลาน ระบุ “สฬากริวิชฺชาสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ กริยาสังวรรณนาอันแก้ไขยังสฬากริวิชชาสูตรอันมีในทิพมนต์ผูกเดียว ก็สมเร็จเสด็จบรมวลควรแก่กาลเท่านี้ก่อนแล ก็สมเร็จแล้วเดือน ๓ แรม ๗ ค่ำ พร่ำว่าได้วัน ๗ แลนายเหย เสด็จแล้วยามเมื่อจักใกล้ค่ำ ข้าขอกุศลนาบุญอันนี้ไปรอดไปเถิงบิตตามาดาครูบาอุปัชฌาย์อาจารย์แห่งข้านี้ชู่ผู้ชู่คนแด่เทอะ ส่วนว่าตนตัวข้านี้ขอสุข ๓ ประการ มีนิพพานเป็นที่แล้วเข้าสู่เวียงแก้วเวชไชย ขออย่าหื้อมีโรคาพยาธิเยื่องใด ข้าขอกุศลนาบุญอันนี้ไปได้ขวางหม้า (ควรเป็น หน้า) หับทับอบายภูมิทั้ง ๔ ขออย่าหื้อได้พบได้หันข้าขอหื้อได้พบพระอริยเมตไตยตนจักมาเกิดภายหน้านี้ จุ่งจักมีเที่ยงแท้ดีหลี คันว่ายังเวียนว่ายอยู่ในวัฏสงสารนี้อย่าหื้อได้ทุกได้ยากลำบากเหมือนชาตินี้เลย ธุวํ ธุวํ นิจฺจํ นิจฺจํ แก่ข้าเทอะ ตนตัวข้าเขียน ชื่อว่า รัสสภิกขุเตา เขียนปางเมื่ออยู่วัดนครบาลแล” (ตัวเอียง เป็นตัวเลขไทย)
หน้าต้น ระบุ “หน้าทับเค้า วิชาสูตร โยมไผ สร้างไว้ค้ำชูศาสนาพระโคตมเจ้าตราบต่อเนื่องอริยเมตไตย ขอมีความสุข ๓ ประการ มีนิพพานเป็นยอดแด่เทอะ ๛” ลานแรก หัวลาน ระบุ “หน้าทับเค้า นิพพานสูตร” เขียนอักษรธรรม ด้วยปากกาลูกลื่นสีดำ “วิชานสูต วิชานสูต” ท้ายลาน ระบุ “สฬากริวิชฺชาสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ กริยาสังวรรณนาอันกล่าวแก้ไขยังสฬากริวิ[ชชา]สูตร อันมีในทิพมนต์ผูกต้น ก็สมเร็จเสด็จบรมวลควรแก่กาลเท่่านี้ก่อนแล ๛
หน้าต้น จารอักษรไทย ระบุ “ราจ๊ะสูตร นาหนอง” ลานแรก หัวลาน ระบุ “ราชสูตร ผูกเดียว” ท้ายลาน ระบุ “กล่าวยังธรรมอันชื่อว่า ปัญหาราชาสูตร ก็แล้วเท่านี้ก่อน สสแลนายเหย เสด็จแล้วในเพ็งแล รัสสภิกขุธรรมสร เขียนปางเมื่ออยู่หนองนาแล เขียนหื้ออาวหนานจูย นางเขียว อยู่บ้านนาหนองแล อายุ วณฺโณ สุขํ พลํ นั้นเทอะ”
หน้าต้น ระบุ “หน้าทับเค้า นันทราช แลนายเหย” เขียนอักษรไทย ด้วยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน “นนฺทราส” ท้ายลาน ระบุ “สุนนฺทราชสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ กริยาอันกล่าวยัง สุนนฺทราชสุตฺตํ ก็สมเร็จแล้วเท่านี้ก่อนแล ๛ สุนันทราช ผูกเดียว”
ลานแรก หัวลาน ระบุ “เต่าคำ” เขียนอักษรไทย ด้วยปากกาน้ำเงิน “เต่าคำ ผูกเดียว” ท้ายลาน ระบุ “สุวณฺณชาตกํ นิฏฺฐิตํ กล่าวเถิง[เจ้าสุวรรณเต่าคำ] ก็แล้วด้วยประการเท่านี้ก่อนแล เสด็จแล้วยามเมื่อฉันข้าวเพลแล นายที่ไว้เหยสุวรรณเต่าคำ ๛ ทั้งงามหาบ่ได้สักหยาด พอดูแท้ เหมือนปูยาดคันนาแลนายเหย ภิกขุยานะเขียนแล ทุพี่หลวงกิงทา เป็นศรัทธาแล ตกที่ใดขอสาธุเจ้าตนใดได้เล่าได้เรียนใส่หื้อข้าจิ่มเนอ ขอเจ้าที่ไว้ขออย่าไปด่าหีแม่ข้าแด่เทอะ ออกอีนายมาปลูกนาแขกใกล้หัวใจ กากีก็พลั้งก็บ่พลาดไปนา เพราะว่าใคร่ได้บุญแลนายเหย ทั้งงามห่อข้าวหา ๓ วัน ขำก็บ่ได้แลนายเหย”