เอกสารตัวเขียน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,430 รายการ (159 หน้า)

BKK001-051 ตำรายันต์ต่าง ๆ

ตำราไสยศาสตร์
วัดหนัง , สมุดไทยขาว , ไสยศาสตร์ , ยันต์ , ภาพ , ยันต์พระวินัย , คาถาเสกยันต์ , ยันต์ถอนรูป , ยันต์พระเจ้า 5 พระองค์ , ยันต์ลงผ้าประเจียด , ยันต์พระกาฬ , ปั้นเทียน , โองการมหาเถรตำแย

สมุดไทยขาว สภาพไม่สมบูรณ์นัก มีร่องรอยแมลงกัดแทะ แต่เนื้อหาบางส่วนยังอ่านได้ เนื้อหาอยู่ในหมวดไสยศาสตร์ มีภาพยันต์และคาถาต่างๆ เช่น ยันต์พระวินัย คาถาเสกยันต์ ยันต์ถอนรูป ยันต์พระเจ้า 5 พระองค์ ยันต์ลงผ้าประเจียด ยันต์พระกาฬ ปั้นเทียน และโองการมหาเถรตำแย เป็นต้น

BKK001-054 ราชาพิลาป

วรรณคดี
นิราศสีดา , นิราส , นิราษ , พระราม , พระลักษณ์ , นางสีดา , ทศกัณฑ์ , การเดินทาง , สดายุ , หนุมาน , นกยูง , ยักษ์ , สมุดไทยดำ , ฐานข้อมูล , ศมส , วัดหนัง , พิพิธภัณฑ์วัดหนัง

สมุดไทยดำ เขียนด้วยเส้นรง อักษรไทย ภาษาไทย ตัวอักษรสวยงามเป็นระเบียบอ่านง่าย เนื้อความเล่าถึงพระรามและพระลักษณ์ออกตามหานางสีดาจนถึงลำธารแห่งหนึ่ง  พบนกยูงและนกยางกำลังตำหนิพระรามที่ปล่อยให้ทศกัณฐ์ลักนางไปได้ พระรามกริ้วจะสังหารนกทั้งสอง แต่เมื่อนกทูลเตือนพระรามก็คลายความโกรธลง นกทั้งสองทูลว่าทศกัณฐ์เป็นผู้ลักนางไปและให้พระรามเดินทางต่อไปจะพบลิงดำ เมื่อพระรามและพระลักษณ์พบลิงดำ ลิงถวายผ้าสไบที่นางสีดาฝากไว้และบอกทางให้พระรามและพระลักษณ์เดินทางไปจนได้พบยักษ์กุมพลซึ่งมีกายเพียงครึ่งเดียว พระลักษณ์ใช้ตรีสังหารยักษ์กุมพล ต่อมาทั้งสองพบนกสดายุซึ่งคาบธำมรงค์ไว้รอถวายพระราม เมื่อเล่าเรื่องจบแล้วสดายุก็สิ้นใจ พระรามเสียพระทัยมากจึงจัดการปลงศพโดยแผลงศรเป็นไฟเผาสดายุ จากนั้นก็เดินทางจนได้พบหนุมาน (ข้อมูลจาก https://thailitdir.sac.or.th/detail.php?meta_id=200)

BKK001-053 ตำรายา

ตำราเวชศาสตร์
ใบลาน , ใบลานก้อม , เวชศาสตร์ , ตำรายา , สมุนไพร , รักษาโรค , พืช , ความเจ็บป่วย , เด็ก , โรคของเด็ก , ธาตุ

ใบลานขนาดสั้น จารด้วยตัวอักษรขอมไทย ภาษาบาลี และอักษรไทย ภาษาไทย สภาพเอกสารชำรุดเล็กน้อย อักษรบางส่วนหายไป แต่โดยรวมแล้วเนื้อหายังพออ่านได้แล้ว เนื้อหากล่าวถึง ธาตุของทั้ง 4 ที่บังเกิดให้เป็นรูปกาย โรคของเด็กที่เกิดเดือนและธาตุต่าง ๆ

BKK001-050 ตำรายา

ตำราเวชศาสตร์
วัดหนัง , วัดหนังราชวรวิหาร , พิพิธภัณฑ์วัดหนัง , ใบลานก้อม , รักทึบ , เอกสารโบราณ , เอกสารตัวเขียน , ยาขโลม , ยาเลือด , ยาจันอุทัย , ยาเม็ดดำ , ยาเม็ดเหลือง , ยารุคุณ , สันนิบาต , ยาออกลางสาด , ยารัดฝี , ยารุเลือด

ตำรายา เกี่ยวโรคและตำรับยารักษาโรค เช่น ไข้ 6 ประการ ยาชโลม ยาแก้เลือดตก ยาจันอุทัย ยาสมุตจร ยาเม็ดดำ ยาเม็ดขาว ยาเม็ดเหลือง ยารุคุณ สันนิบาตสองคลอง ยาออกลางสาด ยารัดฝีแดง ยาไข้สันนิบาต เป็นต้น 

ไม้ประกับเป็นไม้อัดประกอบใบลานก้อม ยาว 28 ซ.ม. กว้าง 6 ซ.ม.

RBR004-003 พระยาชมพูบดี ผูก 3

ธรรมคดี
ลาวเวียง , เวียงจันทน์ , ล้านช้าง , ลาวตี้ , ชมพูบดีสูตร

พระยาชมพูบดีเป็นกษัตริย์ที่มีบุญญาธิการ มีฤทธิ์เพราะมีศรวิเศษปราบได้ทั่วหล้า ด้วยพลังอำนาจนี้ทำให้พระยาชมพูบดีถือตนว่าเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่กว่ากษัตริย์ทุกพระองค์ในชมพูทวีป ครั้งหนึ่งพระยาชมพูเหาะผ่านปราสาทของพระเจ้าพิมพิสาร เห็นแสงของปราสาทส่องสว่างก็ไม่พอพระทัย ใช้พระบาทถีบยอดปราสาท แต่ก็ไม่อาจทำอันตรายยอดปราสาทได้เพราะอำนาจพระพุทธคุณที่คุ้มครองปราสาท แม้พระขรรค์ก็ไม่อาจทำลายยอดปราสาทได้ เมื่อพระยาชมพูกลับมาถึงเมืองจึงใช้ศรวิเศษไปเสียบพระกรรณของพระเจ้าพิมพิสาร ฝ่ายพระเจ้าพิมพิสารเห็นพระยาชมพูพยายามทำลายยอดปราสาทก็เกิดความกลัว หนีไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ศรของพระยาชมพูตามพระเจ้าพิมพิสารมายังเชตวันวิหาร พระพุทธเจ้าทรงเนรมิตจักรขับไล่ศรของพระยาชมพู พระยาชมพูกริ้ว สั่งให้ฉลองพระบาทไปจับตัวพระเจ้าพิมพิสาร ฉลองพระบาทแปลงเป็นนาคราชไปยังเชตวันมหาวิหาร พระพุทธเจ้าบันดาลพญาครุฑไล่จับนาค นาคก็ชำแรกดินหนีกลับไปหาพระยาชมพู พระพุทธเจ้าให้พระอินทร์ไปเชิญพระยาชมพูมาเฝ้า พระยาชมพูดื้อดึง พระอินทร์ปราบพยศพระยาชมพูและบังคับให้พระยาชมพูมาเฝ้าพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าให้สามเณรอรหันต์นำพระยาชมพูเข้ามาในเมือง พระยาชมพูและเหล่าอำมาตย์ไม่เคยเห็นเมืองที่มั่งคั่งและประชาชนที่งดงามดังเทวดา ก็ละอายยอมละทิฐิ ยอมออกบวชเป็นภิกษุ นางกาญจเทวีชายากับโอรสของพระยาชมพูได้ฟังเทศนาของพระพุทธเจ้าก็เกิดความเลื่อมใสออกผนวช สุดท้ายทุกคนก็สำเร็จอรหันตผล (ข้อมูลจาก https://www.sac.or.th/databases/thailitdir/detail.php?meta_id=332)

พระยาชมพูบดี ฉบับใบลานนี้มี 4 ผูก

RBR004-004 พระยาชมพูบดี ผูก 4

ธรรมคดี
ลาวเวียง , เวียงจันทน์ , ล้านช้าง , ลาวตี้ , ชมพูบดีสูตร

พระยาชมพูบดีเป็นกษัตริย์ที่มีบุญญาธิการ มีฤทธิ์เพราะมีศรวิเศษปราบได้ทั่วหล้า ด้วยพลังอำนาจนี้ทำให้พระยาชมพูบดีถือตนว่าเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่กว่ากษัตริย์ทุกพระองค์ในชมพูทวีป ครั้งหนึ่งพระยาชมพูเหาะผ่านปราสาทของพระเจ้าพิมพิสาร เห็นแสงของปราสาทส่องสว่างก็ไม่พอพระทัย ใช้พระบาทถีบยอดปราสาท แต่ก็ไม่อาจทำอันตรายยอดปราสาทได้เพราะอำนาจพระพุทธคุณที่คุ้มครองปราสาท แม้พระขรรค์ก็ไม่อาจทำลายยอดปราสาทได้ เมื่อพระยาชมพูกลับมาถึงเมืองจึงใช้ศรวิเศษไปเสียบพระกรรณของพระเจ้าพิมพิสาร ฝ่ายพระเจ้าพิมพิสารเห็นพระยาชมพูพยายามทำลายยอดปราสาทก็เกิดความกลัว หนีไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ศรของพระยาชมพูตามพระเจ้าพิมพิสารมายังเชตวันวิหาร พระพุทธเจ้าทรงเนรมิตจักรขับไล่ศรของพระยาชมพู พระยาชมพูกริ้ว สั่งให้ฉลองพระบาทไปจับตัวพระเจ้าพิมพิสาร ฉลองพระบาทแปลงเป็นนาคราชไปยังเชตวันมหาวิหาร พระพุทธเจ้าบันดาลพญาครุฑไล่จับนาค นาคก็ชำแรกดินหนีกลับไปหาพระยาชมพู พระพุทธเจ้าให้พระอินทร์ไปเชิญพระยาชมพูมาเฝ้า พระยาชมพูดื้อดึง พระอินทร์ปราบพยศพระยาชมพูและบังคับให้พระยาชมพูมาเฝ้าพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าให้สามเณรอรหันต์นำพระยาชมพูเข้ามาในเมือง พระยาชมพูและเหล่าอำมาตย์ไม่เคยเห็นเมืองที่มั่งคั่งและประชาชนที่งดงามดังเทวดา ก็ละอายยอมละทิฐิ ยอมออกบวชเป็นภิกษุ นางกาญจเทวีชายากับโอรสของพระยาชมพูได้ฟังเทศนาของพระพุทธเจ้าก็เกิดความเลื่อมใสออกผนวช สุดท้ายทุกคนก็สำเร็จอรหันตผล (ข้อมูลจาก https://www.sac.or.th/databases/thailitdir/detail.php?meta_id=332)

พระยาชมพูบดี ฉบับใบลานนี้มี 4 ผูก

RBR004-001 พระยาชมพูบดี ผูกต้น

ธรรมคดี
ลาวเวียง , เวียงจันทน์ , ล้านช้าง , ลาวตี้ , ชมพูบดีสูตร

พระยาชมพูบดีเป็นกษัตริย์ที่มีบุญญาธิการ มีฤทธิ์เพราะมีศรวิเศษปราบได้ทั่วหล้า ด้วยพลังอำนาจนี้ทำให้พระยาชมพูบดีถือตนว่าเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่กว่ากษัตริย์ทุกพระองค์ในชมพูทวีป ครั้งหนึ่งพระยาชมพูเหาะผ่านปราสาทของพระเจ้าพิมพิสาร เห็นแสงของปราสาทส่องสว่างก็ไม่พอพระทัย ใช้พระบาทถีบยอดปราสาท แต่ก็ไม่อาจทำอันตรายยอดปราสาทได้เพราะอำนาจพระพุทธคุณที่คุ้มครองปราสาท แม้พระขรรค์ก็ไม่อาจทำลายยอดปราสาทได้ เมื่อพระยาชมพูกลับมาถึงเมืองจึงใช้ศรวิเศษไปเสียบพระกรรณของพระเจ้าพิมพิสาร ฝ่ายพระเจ้าพิมพิสารเห็นพระยาชมพูพยายามทำลายยอดปราสาทก็เกิดความกลัว หนีไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ศรของพระยาชมพูตามพระเจ้าพิมพิสารมายังเชตวันวิหาร พระพุทธเจ้าทรงเนรมิตจักรขับไล่ศรของพระยาชมพู พระยาชมพูกริ้ว สั่งให้ฉลองพระบาทไปจับตัวพระเจ้าพิมพิสาร ฉลองพระบาทแปลงเป็นนาคราชไปยังเชตวันมหาวิหาร พระพุทธเจ้าบันดาลพญาครุฑไล่จับนาค นาคก็ชำแรกดินหนีกลับไปหาพระยาชมพู พระพุทธเจ้าให้พระอินทร์ไปเชิญพระยาชมพูมาเฝ้า พระยาชมพูดื้อดึง พระอินทร์ปราบพยศพระยาชมพูและบังคับให้พระยาชมพูมาเฝ้าพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าให้สามเณรอรหันต์นำพระยาชมพูเข้ามาในเมือง พระยาชมพูและเหล่าอำมาตย์ไม่เคยเห็นเมืองที่มั่งคั่งและประชาชนที่งดงามดังเทวดา ก็ละอายยอมละทิฐิ ยอมออกบวชเป็นภิกษุ นางกาญจเทวีชายากับโอรสของพระยาชมพูได้ฟังเทศนาของพระพุทธเจ้าก็เกิดความเลื่อมใสออกผนวช สุดท้ายทุกคนก็สำเร็จอรหันตผล (ข้อมูลจาก https://www.sac.or.th/databases/thailitdir/detail.php?meta_id=332)

พระยาชมพูบดี ฉบับใบลานนี้มี 4 ผูก

RBR004-002 พระยาชมพูบดี ผูก 2

ธรรมคดี
ลาวเวียง , เวียงจันทน์ , ล้านช้าง , ลาวตี้ , ชมพูบดีสูตร

พระยาชมพูบดีเป็นกษัตริย์ที่มีบุญญาธิการ มีฤทธิ์เพราะมีศรวิเศษปราบได้ทั่วหล้า ด้วยพลังอำนาจนี้ทำให้พระยาชมพูบดีถือตนว่าเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่กว่ากษัตริย์ทุกพระองค์ในชมพูทวีป ครั้งหนึ่งพระยาชมพูเหาะผ่านปราสาทของพระเจ้าพิมพิสาร เห็นแสงของปราสาทส่องสว่างก็ไม่พอพระทัย ใช้พระบาทถีบยอดปราสาท แต่ก็ไม่อาจทำอันตรายยอดปราสาทได้เพราะอำนาจพระพุทธคุณที่คุ้มครองปราสาท แม้พระขรรค์ก็ไม่อาจทำลายยอดปราสาทได้ เมื่อพระยาชมพูกลับมาถึงเมืองจึงใช้ศรวิเศษไปเสียบพระกรรณของพระเจ้าพิมพิสาร ฝ่ายพระเจ้าพิมพิสารเห็นพระยาชมพูพยายามทำลายยอดปราสาทก็เกิดความกลัว หนีไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ศรของพระยาชมพูตามพระเจ้าพิมพิสารมายังเชตวันวิหาร พระพุทธเจ้าทรงเนรมิตจักรขับไล่ศรของพระยาชมพู พระยาชมพูกริ้ว สั่งให้ฉลองพระบาทไปจับตัวพระเจ้าพิมพิสาร ฉลองพระบาทแปลงเป็นนาคราชไปยังเชตวันมหาวิหาร พระพุทธเจ้าบันดาลพญาครุฑไล่จับนาค นาคก็ชำแรกดินหนีกลับไปหาพระยาชมพู พระพุทธเจ้าให้พระอินทร์ไปเชิญพระยาชมพูมาเฝ้า พระยาชมพูดื้อดึง พระอินทร์ปราบพยศพระยาชมพูและบังคับให้พระยาชมพูมาเฝ้าพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าให้สามเณรอรหันต์นำพระยาชมพูเข้ามาในเมือง พระยาชมพูและเหล่าอำมาตย์ไม่เคยเห็นเมืองที่มั่งคั่งและประชาชนที่งดงามดังเทวดา ก็ละอายยอมละทิฐิ ยอมออกบวชเป็นภิกษุ นางกาญจเทวีชายากับโอรสของพระยาชมพูได้ฟังเทศนาของพระพุทธเจ้าก็เกิดความเลื่อมใสออกผนวช สุดท้ายทุกคนก็สำเร็จอรหันตผล (ข้อมูลจาก https://www.sac.or.th/databases/thailitdir/detail.php?meta_id=332)

พระยาชมพูบดี ฉบับใบลานนี้มี 4 ผูก