คัมภีร์ใบลานเรื่องที่นำมาศึกษาในครั้งนี้เป็นเอกสารที่เก็บรักษาไว้ที่หอจดหมายเหตุสาธารณสุขแห่งชาติ สำนักวิจัยสังคมและสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี ซึ่งได้รับบริจาคมาจากนายทองอ่อน สิทธิไกรพงษ์ คัมภีร์ใบลานเรื่อง NPH001-060 สู่ขวัญควาย เป็นใบลานขนาดสั้นเรียกว่า ใบลานก้อม สภาพเอกสารชำรุดเล็กน้อย ขอบลานขาดแหว่งแต่ไม่มีผลกระทบต่อการอ่าน ตัวอักษรชัดเจน จารด้วยตัวอักษรธรรมอีสาน ภาษาไทยถิ่นอีสาน พิธีกรรมสู่ขวัญควาย เป็นการปลุกปลอบขวัญและกำลังใจ ตลอดจนเป็นการขอขมาโทษต่อควายที่ได้ใช้งานหนักหรือเฆี่ยนดีมาโดยตลอดในช่วงของการทำไร่ไถนาที่ผ่านมา โดยเนื้อหากล่าวถึงสิ่งของเครื่องใช้ที่ใช้ในการประกอบพิธีไปจนถึงขั้นตอนในการประกอบพิธี ------ ข้อมูลอ้างอิง “สู่ขวัญควาย : พิธีกรรม.” สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคอีสาน เล่ม 14. กรุงเทพฯ: มูลนิธิสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ธนาคารไทยพาณิชย์, 2542: 4778-4782.
สมุดไทยเรื่อง NPT010-016 ตำราคาถาและตำรายา ฉบับวัดสำโรง จ.นครปฐม เป็นสมุดไทยขาวตัวอักษรขอมไทย, ไทย ภาษาบาลีและภาษาไทย เขียนด้วยเส้นหมึกสีดำ ลายมือที่ปรากฏในสมุดไทยมี ๒ ลายมือแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ลายมือแรกเขียนตัวอักษรขอมไทยได้บรรจง สวยงาม ส่วนลายมือที่สองค่อนข้างหวัด สันนิษฐานว่าในหน้าต้นที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องตำราคาถานั้นถูกเขียนขึ้นมาก่อนซึ่งไม่ได้เขียนจนหมดฉบับ จากนั้นถูกนำไปเขียนเรื่องตำรายาภายหลัง สมุดไทยขาวฉบับนี้ไม่ครบฉบับ หน้าต้นและหน้าปลายขาดหายไปเป็นที่น่าเสียดายมาก บางตำแหน่งมีรอยน้ำซึมทำให้ตัวอักษรลบเลือนไปเล็กน้อย หน้าต้นกล่าวถึง คาถาปถมํ คือ การอุบัติของพระเจ้าทั้ง ๕ พระองค์ การบำเพ็ญบารมีจนถึงสูญนิพพาน คาถาต่างๆ ทั้งคาถาเมตตามหายนิยม คาถาอยู่ยงคงกระพัน คาถาต่อกระดูก เป็นต้น หน้าปลายเป็นตำรายา กล่าวถึง คัมภีร์โรคนิทาน เป็นชื่อของคัมภีร์ที่ว่าด้วยเหตุและสมุฏฐานของโรค โรคที่เกิดจากธาตุทั้งสี่พิการ (ปฐวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ อาโปธาตุ) และสูตรยารักษาโรคนั้นๆ เช่น อาโปพิการ ร่างกายขาวซีด ง่วงซึม รักษาด้วย เจตมูลเพลิงแดง ๑ ลูกผักชี ๑ เปลือกมูกมัน ๑ ก็ทำเป็นผงละเอียดละลายน้ำร้อนกินแก้โรค เป็นต้น
เอกสารโบราณเป็นคัมภีร์ใบลานขนาดสั้นเกี่ยวกับตำราเวชศาสตร์ ขึ้นต้นด้วยคาถาบาลี อักษรขอมไทย ภาษาบาลี จากนั้นกล่าวถึงโรคต่าง ๆ 32 ประการ อาการและสมุนไพร มีแทรกข้อความว่า “ตำรายาหุงเลกเปนทองเปนเงินเปนเลกยูคางนากรอบเลกอันไดยเปนเลก ๒ อันนันเปนเลกยาวิเสดนักแล ฯ“
ตำรายากล่าวถึงโรคและตำรับยารักษาโรค เช่น ยาแก้คุณ ยาแก้คุณผีคุณคน ยาแก้ฝีที่นม ยาแก้ฝีในหู ยาแก้ฝีรำมะนาด ยาแก้ไอ ยาแก้ไอเสลด ยาแก้ริดสีดวงในท้อง ยาแก้ลม ยาเหลือง ยาแก้ซาง ยาจินดาขันบุตร ยากวาดซาง ยามหานินใหญ่ ยาจุดฝีดาษ ยาตานขโมย ยาแก้กาฬ ยามหาไข้ ยาสันนิบาต เป็นต้น
วัดบ้านโพธิ์ ตั้งอยู่เลขที่ 75 หมู่ที่ 11 ตำบลคูบัว อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ 14 ไร่ 3 งาน 26 ตารางวา มีที่ธรณีสงฆ์จำนวน 6 แปลง เนื้อที่ 47 ไร่ 3 งาน 20 ตารางวา ที่มาของชื่อวัด มาจากภายในบริเวณมีต้นโพธิ์ขึ้นเยอะ ชาวบ้านจึงนำมาใช้ตั้งเป็นชื่อวัดที่เรียกว่า วัดบ้านโพธิ์ วัดบ้านโพธิ์ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2417 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ.2482 วัดบ้านโพธิ์ เป็นวัดที่ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องคฺการมหาชน) เคยมาสำรวจครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2555 และครั้งที่ 2 วันที่ 5-7 สิงหาคม 2562 และมาทำทะเบียน ทำสำเนาดิจิทัลเมื่อ 19 พฤศจิกายน 2562 และ 10 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา พระอธิการบุญสม นาถสีโล เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ ท่านพาคณะสำรวจประกอบด้วย นายดอกรัก พยัคศรี (นักวิชาการ) นายสมศักดิ์ แก้วนุช (เจ้าหน้าที่ประสานงาน) นางสาวนิสา เชยกลิ่น (เจ้าหน้าที่ฐานข้อมูล) และนายศุภกรานต์ พุ่มพฤกษ์ (เจ้าหน้าที่โสตทัศน์) ได้ไปลงพื้นที่วัดบ้านโพธิ์ จังหวัดราชบุรี ไปดูเอกสารโบราณที่เก็บเอาไว้ในห้องเก็บของใต้ถุนศาลาการเปรียบ ซึ่งเต็มไปด้วยข้าวของที่ชาวบ้านเอามาทำบุญเช่น หลอดไฟ กรอบรูป หนังสือ ธูปเทียน พัดลมที่ชำรุด เป็นต้น ขาวของเหล่านี้วางทับอยู่บนกล่องที่ใส่คัมภีร์ใบลานที่วางไว้กับพื้น คัมภีร์ใบลานของวัดนี้มีความเสี่ยงในเรื่องความชื้น และน้ำท่วมได้ คัมภีร์ใบลานชุดนี้เก็บไว้ที่จุดเดิมตามข้อมูลที่ฐานข้อมูลเอกสารโบราณฯ เคยจ้างสำรวจเมื่อ พ.ศ.2555 โดยมีกล่องไม้ใส่คัมภีร์ใบลานประมาณ 15 กล่อง กล่องไม้ที่มีใบลานประมาณ 6 กล่อง กล่องไม้เป็นกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีฝาปิด กล่องหนึ่งสามารถใส่ใบลานได้ 5-6 ผูก ขึ้นอยู่กับความหนาของเรื่องนั้นๆ ไม่มีลวดลาย ด้านในกล่องไม้บางกล่องพบข้อความที่เขียนเป็นภาษาไทยระบุว่า ใครเป็นผู้สร้างคัมภีร์ เป็นต้น บางกล่องพบผ้าห่อคัมภีร์แม้จะเปื่อยไปตามกาลเวลาแต่ยังคงสีสันสดใสให้เห็น เนื่องจากถูกปล่อยปละละเลยเป็นเวลานาน ประกอบกับสถานที่เก็บรักษาไม่เอื้ออำนวย มีความชื้นสูง ทำให้สภาพเอกสารบางส่วนอยู่ในสภาพชำรุด ชื้น กรอบ มีเศษฝุ่น ขี้จิ้งจก เศษไข่จิ้งจก และรอยแมลงกัดแทะ พระอธิการบุญสม นาถสีโล อนุญาตให้คณะสำรวจทำทะเบียน ถ่ายภาพเอกสารโบราณ และสามารถเผยแพร่เอกสารโบราณของวัดในเว็บไซต์ฐานข้อมูลฯ ได้ การทำความสะอาดเอกสารโบราณ เริ่มจากกำจัดสิ่งสกปรกออกจากตัวเอกสาร ส่วนผ้าห่อคัมภีร์ที่พบแยกไว้อีกส่วน ปัญหาที่พบคือใบลานติดกับเป็นปึก ต้องใช้เวลาและความระมัดระวังเป็นอย่างมากในการแกะออกมา ถึงแม้ว่าใบลานจะมีความชื้นสูงแต่ก็มีความกรอบเช่นกัน หากไม่ระวังอาจทำให้ใบลานหักได้ หลังจากที่แกะใบลานออกเป็นใบๆ แล้ว นำไปเช็ดด้วยเอทิลแอลกอฮอล์ 95% ที่ละใบ จากนั้นผึ่งลมให้แห้ง ก่อนจะนำไปทำทะเบียน ถ่ายภาพเอกสารโบราณ จากนั้นนำมาจัดหมวดหมู่ ทำป้ายชื่อกำกับ และห่อผ้า ส่วนคัมภีร์ที่ไม่สมบูรณ์ที่ไม่สมบูรณ์นั้น ทำความสะอาด ห่อให้เรียบร้อย แต่ไม่มีได้การทำสำเนาดิจิทัลเอกสารชุดที่ชำรุดนั้น อ้างอิงข้อมูล ประวัติวัดบ้านโพธิ์. จาก https://www.lovethailand.org/travel/th/13-วัดบ้านโพธิ์.html.
คอลเลกชั่นพิเศษของคุณมนัสวี ผู้ได้รับมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นอันเป็นเอกสารตัวเขียน ท่านได้เล่าถึงที่มาที่ไปเอกสารชุดนี้ว่าเป็นของคุณปู่ ท่านประกอบอาชีพเป็นครูสอนศาสนานิกายซุนนีห์ จึงมีเอกสารเกี่ยวกับศาสนาอิสลามจำนวนหนึ่ง คุณมนัสวีเล่าให้ฟังต่อว่า “สมัยนั้นยังไม่มีความสนใจในเรื่องเหล่านี้จึงไม่เคยสอบถามอะไรไว้ และคุณปู่ก็เสียชีวิตไปเมื่อ พ.ศ.2475 น่าเสียดายเป็นอย่างมากที่ได้เรื่องราวใด ๆ ไว้” ส่วนเอกสารโบราณเหล่านี้คุณมนัสวีไปพบที่บ้านหลังเก่าของคุณปู่ ถูกเก็บไว้ในห้องใต้หลังคา บ้านหลังนั้นไม่ได้รับความเสียหายจากระเบิดในช่วงสงครามมหาเอเซียบูรพา ทำให้เอกสารโบราณเหล่านี้ไม่ได้รับความเสียและถูกค้นพบในเวลาต่อมา เอกสารตัวเขียนถูกเก็บไว้ในหีบไม้ เอกสารบางส่วนมีรอยเปื้อนซึมน้ำ ทำให้เอกสารโบราณติดกันเป็นปึกแกะไม่ออกบ้าง บางส่วนหลุดออกมาเป็นแผ่น ๆ แต่สภาพโดยรวมยังถือว่าเอกสารโบราณอยู่ในสภาพดี โดยเอกสารที่พบเป็นสมุดไทยขาว 1 เล่ม อักษรไทยและอักษรอาหรับ กล่าวถึงข้อปฏิบัติตามหลักของศาสนาอิสลาม เช่น การชำระล้างร่างกาย การละหมาด การถือศีลอด เป็นต้น ส่วนสมุดฝรั่งนั้นมีหลายเล่ม จึงขอยกเล่มที่น่าสนใจ อาทิ คัมภีร์อัลกุรอาน อักษรอาหรับ การตกแต่งด้วยการลงสีอย่างสวยงาม และเย็บกี่เข้าเป็นเล่มเดียวกัน เนื่องจากคัมภีร์อัลกุรอานบางแห่งจะจัดเก็บเป็นเล่มเล็ก ๆ แยกเฉพาะบทเท่านั้น อาจเป็นในเรื่องความสะดวกในการหยิบมาใช้ หรือการพกพาก็เป็นได้
เว็บท่า (WEB PORTAL) เอกสารโบราณ เป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่จัดทำฐานข้อมูลด้านเอกสารตัวเขียน บูรณาการเชื่อมโยงเครือข่ายข้อมูลเข้าด้วยกัน เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลความรู้ด้านเอกสารตัวเขียนได้ในจุดเดียว เว็บท่า (WEB PORTAL) เอกสารโบราณ ได้รวบรวมข้อมูลเอกสารตัวเขียน โดยปัจจุบันมีข้อมูลของ คลังข้อมูลดิจิทัล (Digital Repository) สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และฐานข้อมูลเอกสารตัวเขียนในประเทศไทย (Database Manuscripts of Thailand) ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) เปิดให้ใช้บริการ ซึ่งมีข้อมูลเอกสารตัวเขียนรวมกันกว่า 1,800 รายการ และมีแนวทางที่จะแสวงหาเครือข่ายเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลด้านเอกสารตัวเขียนให้ครอบคลุมและเกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ สามารถเข้าไปใช้งานที่เว็บไซต์ https://db.sac.or.th/manuscriptsofthailand/
วัดคงคารามสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาต่อกรุงธนบุรี ตามประวัติกล่าวว่า เจ้าเมืองรามัญ 7 เมือง ได้แก่ พระสมิงสิงหบุรินทร์ เมืองสิงห์ พระนินนะภูมินบดี เมืองลุ่มสุ่ม พระชินติฐบดี เมืองท่าตะกั่ว พระนิโครธาภิโยค เมืองไทรโยค พระปนัสติฐบดี เมืองท่าขนุน พระเสลภูมิบดี เมืองทองผาภูมิ และพระผลกติฐบดี เมืองท่ากระดาน รวมถึงครอบครัวชาวมอญที่อพยพเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารตั้งบ้านเรือนอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง ได้ร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์วัดคงคารามขึ้นเป็นวัดกลาง เพื่อใช้เป็นศูนย์รวมในการร่วมทำสังฆกรรมของสงฆ์แบบรามัญนิกายในวันเข้าและออกพรรษาของทุกปี อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมของชาวมอญในจังหวัดราชบุรีและจังหวัดใกล้เคียง โดยมีชื่อเรียกเป็นภาษามอญว่า “เภี้ยโต้” แปลว่าวัดกลาง และเป็นชื่อวัดหนึ่งในเมืองมอญ ปลายสมัยรัชกาลที่ 2 พระยามหาโยธา (เจ่ง คชเสนี) ขุนนางไทยเชื้อสายมอญได้นิมนต์พระราชาคณะฝ่ายรามัญนิกายมาเป็นเจ้าอาวาส วัดคงคารามเจริญรุ่งเรืองถึงขั้นสูงสุดในสมัยรัชกาลที่ 4 พระครูรามัญญาธิบดี เจ้าอาวาสเป็นที่เคารพนับถือมาก กิจกรรมต่างๆ ของวัดได้รับการอุปถัมภ์โดยเจ้าจอมมารดากลิ่นในรัชกาลที่ 4 และทูลเกล้าฯ ถวายให้เป็นพระอารามหลวง ซึ่งได้รับพระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดคงคาราม” สำหรับพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดคงคารามนั้น ก่อตั้งในปี 2542 โดยใช้กุฏิ 9 ห้อง ซึ่งเป็นเรือนไม้ทรงไทยที่ใหญ่และงามที่สุดแห่งหนึ่ง จัดเป็นที่แสดงโบราณวัตถุ และศิลปวัตถุที่ล้ำค่าอันเป็นสมบัติของวัดมาตั้งแต่สมัยโบราณ เช่น โลงมอญอายุกว่า 200 ปี แกะสลักลายดอกพุดตานลงรักปิดทองประณีตงดงาม คัมภีร์ใบลานและสมุดไทยที่จารเป็นภาษามอญจำนวนมาก หีบและตู้พระธรรม เครื่องปั้นดินเผาศิลปะมอญแกะสลักลวดลายวิจิตรหาชมได้ยากในปัจจุบัน เครื่องมือช่างสมัยโบราณ หนังช้างอานม้าลงรักปิดทอง ตาลปัตรพัดยศรูปทรงงดงาม เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายชาวมอญ เครื่องถ้วยลายคราม เครื่องทองเหลือง เป็นต้น ปี 2553 ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ได้ร่วมงานกับวัดคงคารามเมื่อครั้งจัดงานเทศกาลพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นครั้งที่ 2 ในหัวข้อ “สยามใหม่จากมุมมองท้องถิ่น” ต่อมาปี 2554 ศูนย์ฯ ได้จัดกิจกรรมอนุรักษ์ผ้าห่อคัมภีร์ เพื่อยืดอายุของผ้าในฐานะเป็นหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์ และคุณค่าทางด้านศิลปะและพลังศรัทธาของชุมชน โดยมีผู้ทรงความรู้เรื่องผ้ามาให้ความรู้และปฏิบัติการในการอนุรักษ์ผ้าอย่างง่ายให้กับชาวบ้าน ทั้งการเก็บรักษาผ้าให้คงสภาพดีด้วยวิธีการม้วนผ้ากับแกนเพื่อไม่ให้เส้นใยผ้าหักงอ การจัดแสดงผ้าด้วยการตรึงผ้ากับกรอบไม้ และการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผืนผ้าด้วยการทำผ้าดามหลัง รวมทั้งการซ่อมแซมผ้าซึ่งมีทั้งวิธีการตามหลักการอนุรักษ์ และวิธีแบบพื้นบ้านผสมผสานกัน ได้รับความร่วมมือร่วมใจจากลุงป้าน้าอาชาวคงคารามเป็นอย่างดี และการจัดกิจกรรมอนุรักษ์ผ้าห่อคัมภีร์นี่เอง ทำให้ ดอกรัก พยัคศรี นักวิชาการฐานข้อมูลเอกสารโบราณฯ (ในขณะนั้น) ที่มีโอกาสได้ไปร่วมกิจกรรมด้วย พบว่านอกจากผ้าห่อคัมภีร์ที่น่าสนใจแล้ว ตัวเอกสารโบราณที่ถูกเก็บรักษาไว้ก็มีความน่าสนใจ น่าศึกษา สมควรที่จะอนุรักษ์เอกสารโบราณในรูปแบบของสำเนาดิจิทัล และเพิ่มช่องทางในการเผยแพร่เอกสารโบราณเหล่านี้ให้ผู้คนสามารถเข้าถึงเอกสารโบราณได้ง่ายขึ้น ปี 2559 ทางศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธรฯ จึงทำหนังสือขออนุญาตเพื่อทำสำเนาดิจิทัลเอกสารโบราณ ทีมงานได้พบพระอนุวัฒน์ สุจิตฺโต ผู้ช่วยเจ้าอาวาส หรือพระเจี๊ยบ ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี พระเจี๊ยบให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าก่อนหน้านี้มีหน่วยงานของรัฐ คือ กลุ่มงานหนังสือตัวเขียนและจารึก สำนักหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร ได้เข้ามาสำรวจ ชำระ แยกประเภทและจัดหมวดหมู่เอกสารโบราณของวัดคงคารามไว้อย่างดีมาก และจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ และได้อาจารย์พิศาล บุญผูก ผู้เชี่ยวชาญอักษรและภาษาโบราณมาช่วยอ่านแปลชื่อเรื่องให้ ซึ่งเป็นคุณูปการแก่วงวิชาการอย่างสูง อ้างอิงข้อมูลจาก 1) ประวัติความเป็นมาและสภาพทั่วไปของเทศบาลตำบลคลองตาคต, สืบค้นจาก http://www.klongtakot.go.th/general1.php 2) แผ่นพับประชาสัมพันธ์พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านและจิตรกรรมฝาผนังวัดคงคาราม 3) รีวิวพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดคงคาราม, ฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย ศมส. https://db.sac.or.th/museum/museum-detail/435
เมื่อวันที่ 20-21 ตุลาคม 2568 คณะสำรวจฯ ได้เดินทางไปยังบ้านของคุณวรรณี มานะจิตต์ ผู้สืบเชื้อสายจากสายสกุลสุลต่านสุลัยมาน ผู้ครองเมืองสงขลาในอดีต ได้อนุญาตเข้าไปทำทะเบียนเอกสารตัวเขียนที่อยู่ในความดูแลของท่านเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้อันทรงคุณค่าให้สาธารณชนเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้
ธรรมเนียมการบันทึกหลักธรรมคำสอน การศึกษา และการทำบุญในพุทธศาสนาขงชาวล้านนาจะดำเนินการผ่านการคัดลอกคัมภีร์ใบลาน คือใช้ใบลานบันทักหลักธรรมคำสอน การอ่านหรือคัดลอกใบลานถือเป็นระบบการเรียนรู้ของพระภิกษุสามเณรในอดีต และการทำบุญด้วยการคัดลอกหรือสร้างคัมภีร์ใบลานถวายไว้กับวัดถือเป็นการทำบุญที่ได้รับอานิสงส์มาก จึงจะพบได้ว่าตามวัดต่าง ๆ
ตำรายา พยากรณ์ ฉบับวัดใหม่นครบาล จังหวัดราชบุรี เป็นสมุดไทย เขียนด้วยเส้นหมึกดำและดินสอ อักษรธรรมล้านนา ภาษาไทยถิ่นเหนือ เอกสารสภาพไม่สมบูรณ์ ขอบสมุดไทยเปื่อยยุุ่ยเล็กน้อย หน้าสมุดไทยบางหน้าตัวหนังสือจางหายทำให้อ่านไม่ได้ และชำรุดขาดหายไปบางส่วน เหลือจำนวน 32 หน้า ไม่ปรากฏชื่อผู้สร้าง
หน้าต้นเป็นตำรายา กล่าวถึงยา เช่น ยาซาง อาการของโรค และยาสำหรับรักษาโรค ส่วนหน้าปลายนั้น กล่าวถึง ตำราดูธาตุชายหญิง ตำราสู่ขวัญ นาคสมพงศ์ เป็นต้น
ศมส. จัดงานประชุมวิชาการระดับชาติ เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ ประจำปี 2568 “เอกสารตัวเขียนไท(ย): ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งอื่น” ระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.แพร ศิริศักดิ์ดำเกิง ผู้อำนวยการศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ตัวแทนรับมอบไฟล์สำเนาดิจิทัลเอกสารตัวเขียนของวัดศรีสะอาด บ้านเก่า ตำบลนาหอ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย
The requested URL /survey/survey-2025.html was not found on this server.