พระมหาโมคคัลลานเถระถามเทพบุตร เทพธิดา ถึงอดีตกรรมที่ส่งผลให้ได้ เกิดในวิมานนั้น ๆ เช่น การทำอัญชลีกรรมต่อท่านผู้มีศีลบ้าง, การถวายทานบ้าง, การรักษาศีลบ้าง, การจุดไฟเพื่อประโยชน์แก่คนไปมาในที่มืดบ้าง, การฟังธรรมบ้าง, การรักษาอุโบสถบ้าง มีคำตอบของผู้ถูกถามเป็นราย ๆ ไป รวม 85 ราย ข้อมูลจาก http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/prasuttanta/k18.html
พระมหาโมคคัลลานเถระถามเทพบุตร เทพธิดา ถึงอดีตกรรมที่ส่งผลให้ได้ เกิดในวิมานนั้น ๆ เช่น การทำอัญชลีกรรมต่อท่านผู้มีศีลบ้าง, การถวายทานบ้าง, การรักษาศีลบ้าง, การจุดไฟเพื่อประโยชน์แก่คนไปมาในที่มืดบ้าง, การฟังธรรมบ้าง, การรักษาอุโบสถบ้าง มีคำตอบของผู้ถูกถามเป็นราย ๆ ไป รวม 85 ราย ข้อมูลจาก http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/prasuttanta/k18.html
พระมหาโมคคัลลานเถระถามเทพบุตร เทพธิดา ถึงอดีตกรรมที่ส่งผลให้ได้ เกิดในวิมานนั้น ๆ เช่น การทำอัญชลีกรรมต่อท่านผู้มีศีลบ้าง, การถวายทานบ้าง, การรักษาศีลบ้าง, การจุดไฟเพื่อประโยชน์แก่คนไปมาในที่มืดบ้าง, การฟังธรรมบ้าง, การรักษาอุโบสถบ้าง มีคำตอบของผู้ถูกถามเป็นราย ๆ ไป รวม 85 ราย ข้อมูลจาก http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/prasuttanta/k18.html
พระมหาโมคคัลลานเถระถามเทพบุตร เทพธิดา ถึงอดีตกรรมที่ส่งผลให้ได้ เกิดในวิมานนั้น ๆ เช่น การทำอัญชลีกรรมต่อท่านผู้มีศีลบ้าง, การถวายทานบ้าง, การรักษาศีลบ้าง, การจุดไฟเพื่อประโยชน์แก่คนไปมาในที่มืดบ้าง, การฟังธรรมบ้าง, การรักษาอุโบสถบ้าง มีคำตอบของผู้ถูกถามเป็นราย ๆ ไป รวม 85 ราย ข้อมูลจาก http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/prasuttanta/k18.html
พญานันโทปนันทนาคราช คือ พญานาคที่อาศัยอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา มีพลพรรคมากเป็นหนึ่งในสัตว์ในตำนานอ้างอิงของพระพุทธศาสนาตนหนึ่งซึ่งมีมิจฉาทิฏฐิ แต่ภายหลังถูกพระโมคคัลลานะปราบ จึงละมิจฉาทิฏฐิ และนับถือพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ
ครั้งหนึ่งพระสารีบุตรได้กล่าวกับภิกษุทั้งหลายในวิหารเวฬุวันว่า “นิพพานนี้เป็นสุข” พระอุทายีตั้งข้อสังกาว่า “นิพพานนี้ไม่มีเวทนา เป็นสุขได้อย่างไร” พระสารีบุตรจึงได้กล่าวว่า “นิพพานไม่มีเวทนานี้แลหะจึงเป็นสุข” พร้อมกับอธิบายถึงสุขที่เกิดขึ้นจากกามสุขทั้ง 5 และอธิบายว่า ถึงแม้ภิกษุที่บรรลุฌานชั้นต่างๆ ตั้งแต่ ปฐมฌานไปจนถึง เนวสัญญานาสัญญาตนฌาน ก็ไม่สามารถปราศจากทุกข์ได้ ต่อเมื่อบรรลุเนวสัญญาสัญญาตนฌานโดยประการทั้งปวง อาสวะทั้งหลายก็สิ้นแล้วเพราะเห็นด้วยปัญญา จึงรู้ว่านิพพานนี้เป็นสุขอย่างไร
ครั้งหนึ่งพระสารีบุตรได้กล่าวกับภิกษุทั้งหลายในวิหารเวฬุวันว่า “นิพพานนี้เป็นสุข” พระอุทายีตั้งข้อสังกาว่า “นิพพานนี้ไม่มีเวทนา เป็นสุขได้อย่างไร” พระสารีบุตรจึงได้กล่าวว่า “นิพพานไม่มีเวทนานี้แลหะจึงเป็นสุข” พร้อมกับอธิบายถึงสุขที่เกิดขึ้นจากกามสุขทั้ง 5 และอธิบายว่า ถึงแม้ภิกษุที่บรรลุฌานชั้นต่างๆ ตั้งแต่ ปฐมฌานไปจนถึง เนวสัญญานาสัญญาตนฌาน ก็ไม่สามารถปราศจากทุกข์ได้ ต่อเมื่อบรรลุเนวสัญญาสัญญาตนฌานโดยประการทั้งปวง อาสวะทั้งหลายก็สิ้นแล้วเพราะเห็นด้วยปัญญา จึงรู้ว่านิพพานนี้เป็นสุขอย่างไร
เอกสารโบราณฉบับนี้ ตอนต้นกล่าวถึงตำรายา เช่น ยาแก้ไข้ ซึ่งมีเพียงไม่กี่หน้า จากนั้นกล่าวถึงการดูลักษณะของคน วันมงคล เป็นต้น เอกสารโบราณฉบับนี้มีหลายลายมือ ทั้งลายมือแบบบรรจง ลายมือหวัด ตัวอักษรทั้งเล็กและใหญ่ ส่วนลายเส้น ทั้งเส้นหมึกดำ หมึกน้ำเงิน และดินสอ
หน้าต้น กล่าวถึง ตำรายารักษาโรคซาง อาการและสูตรสมุนไพรในการรักษา นอกจากนี้ยังภาพวาดเป็นรูปคนและตำแหน่งของโรคอีกด้วย ส่วนหน้าปลายเป็นตำราทำนายฝัน ซึ่งเขียนเป็นร้อยกรอง และภาพยันต์ เช่น ยันต์กันศัตรู ยันต์กันหนู เป็นต้น