พระนางมัทรีทรงบรรทมแล้วพระสุบินบอกเหตุแห่งการพลัดพราก รุ่งเช้าเมื่อนางมัทรีเข้าป่าหาอาหาร ครานั้นชูชกจึงเข้าเฝ้าทูลขอสองกุมาร สองกุมารจึงพากันลงไปซ่อนตัวอยู่ที่สระ พระเวสสันดรจึงลงเสด็จติดตามสองกุมาร แล้วจึงมอบให้แก่ชูชก
ชูชกหลอกลวงพรานเจตบุตร โดยอ้างว่ากลักพริกกลักขิงเสบียงอาหารที่นางอมิตตดาจัดเตรียมให้อ้างว่าเป็นพระราชสาสน์ของเจ้ากรุงสญชัย จึงได้พาไปยังต้นทางที่จะไปอาศรมฤๅษี
พระเวสสันดรพร้อมด้วยพระนางมัทรี ชาลี และกัณหา เดินทางถึงนครเจตราชจึงแวะเข้าประทับพักที่ศาลา พระกษัตริย์ผู้ครองนครเจตราชจึงทูลเสด็จครองเมือง แต่พระเวสสันดรทรงปฏิเสธ และเมื่อเสด็จถึงเขาวงกตได้พบศาลาอาศรม ซึ่งท้าววิษณุกรรมเนรมิตตามพระบัญชาของท้าวสักกะเทวราช กษัตริย์ทั้งสี่จึงทรงผนววชเป็นฤๅษีพำนักในอาศรมสืบมา
ภูริทัตตนาคราชไปจำศีลอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ยอมอดทนให้หมองูจับไปทรมานต่าง ๆ ทั้งที่สามารถจะทำลายหมองูได้ด้วยฤทธิ์ มีใจมั่นต่อศีลของตน ในที่สุดก็ได้อิสรภาพ
เนมิราชกุมารได้ขึ้นครองราชย์สืบสันตติวงศ์ต่อจากพระราชบิดา ทรงบำเพ็ญคุณงามความดี เมื่อทรงพระชราก็ทรงมอบราชสมบัติแก่พระราชโอรส เสด็จออกผนวชเช่นเดียวกับที่พระราชบิดาของพระองค์เคยทรงบำเพ็ญมา
หนังสือสมุดไทยขาว บันทึกด้วยอักษรมอญ ภาษมอญ และภาษาบาลี เรื่องเกี่ยวกับพระอภิธรรม ด้านหน้าเขียนเป็นอักษรไทยภาษาไทยว่า พระอภิธรรม ฉบับรามัญ
หนังสือสมุดไทยขาวบันทึกเรื่องเกี่ยวกับตำราโหราศาสตร์ ด้านในมีภาพวงดวงชาตา เอกสารเขียนด้วยอักษรมอญ ภาษามอญ
หนังสือสมุดไทยขาว หน้าปกด้านเขียนด้วยอักษรมอญว่า อภิธมฺมา ด้านในเขียนว่า สมบัติของวัดเจ็ดริ้ว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร