เรื่องนี้ระบุผู้แต่งว่าเป็น อาจารย์หมอคลาย บ้านเกาะเกร็ด
ทะเบียนเดิม 109 มนต์เสน่ห์
เลขทะเบียนเดิม 1 กฏหมาย
ตจปญฺจกกมฺมฏฐานกถา (อุปัชฌาชย์สอนนาค) ภาพวาดเทวดาในกิริยาท่าทางต่าง ๆ จำนวน 2 หน้าลาน หอสมุดแห่งชาติให้เลขทะเบียนที่ 468/1
ทะเบียนเดิม 72 ตำราหมอดู ตำราหมอดู รูปภาพลงสีสวยงาม
หน้าปลายกลับหัว
สมุดไทยขาวเล่มนี้ เป็นตำราไสยศาสตร์ เขียนด้วยอักษรมอญ ภาษามอญ และภาพยันต์เพียง 1 ภาพ มีเขียนด้วยภาษาไทยเพียงเล็กน้อย
หนังสือสมุดไทยขาวบันทึกเรื่องเกี่ยวกับ ตำราโหราศาสตร์ ด้านในมีการวาดรูปภาพหลากหลายแบบ มีภาพหนุมาน ภาพคนขี่ม้า ภาพปราสาทราชวัง ภาพเรือกำปั่น และภาพยันต์
พระยาชมพูบดีเป็นกษัตริย์ที่มีบุญญาธิการ มีฤทธิ์เพราะมีศรวิเศษปราบได้ทั่วหล้า ด้วยพลังอำนาจนี้ทำให้พระยาชมพูบดีถือตนว่าเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่กว่ากษัตริย์ทุกพระองค์ในชมพูทวีป ครั้งหนึ่งพระยาชมพูเหาะผ่านปราสาทของพระเจ้าพิมพิสาร เห็นแสงของปราสาทส่องสว่างก็ไม่พอพระทัย ใช้พระบาทถีบยอดปราสาท แต่ก็ไม่อาจทำอันตรายยอดปราสาทได้เพราะอำนาจพระพุทธคุณที่คุ้มครองปราสาท แม้พระขรรค์ก็ไม่อาจทำลายยอดปราสาทได้ เมื่อพระยาชมพูกลับมาถึงเมืองจึงใช้ศรวิเศษไปเสียบพระกรรณของพระเจ้าพิมพิสาร ฝ่ายพระเจ้าพิมพิสารเห็นพระยาชมพูพยายามทำลายยอดปราสาทก็เกิดความกลัว หนีไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ศรของพระยาชมพูตามพระเจ้าพิมพิสารมายังเชตวันวิหาร พระพุทธเจ้าทรงเนรมิตจักรขับไล่ศรของพระยาชมพู พระยาชมพูกริ้ว สั่งให้ฉลองพระบาทไปจับตัวพระเจ้าพิมพิสาร ฉลองพระบาทแปลงเป็นนาคราชไปยังเชตวันมหาวิหาร พระพุทธเจ้าบันดาลพญาครุฑไล่จับนาค นาคก็ชำแรกดินหนีกลับไปหาพระยาชมพู พระพุทธเจ้าให้พระอินทร์ไปเชิญพระยาชมพูมาเฝ้า พระยาชมพูดื้อดึง พระอินทร์ปราบพยศพระยาชมพูและบังคับให้พระยาชมพูมาเฝ้าพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าให้สามเณรอรหันต์นำพระยาชมพูเข้ามาในเมือง พระยาชมพูและเหล่าอำมาตย์ไม่เคยเห็นเมืองที่มั่งคั่งและประชาชนที่งดงามดังเทวดา ก็ละอายยอมละทิฐิ ยอมออกบวชเป็นภิกษุ นางกาญจเทวีชายากับโอรสของพระยาชมพูได้ฟังเทศนาของพระพุทธเจ้าก็เกิดความเลื่อมใสออกผนวช สุดท้ายทุกคนก็สำเร็จอรหันตผล (ข้อมูลจาก https://www.sac.or.th/databases/thailitdir/detail.php?meta_id=332)