RBR_003_361 อยู่ใน “เลขที่ ๕๘ อิสสิสิง อักษรธรรมล้านนา ภาษาบาลี-ไทยล้านนา ฉบับล่องชาด ๒ ผูก” หน้าทับเค้า ระบุ “หน้าทับเค้า อิสฺสีสิง แล” / เขียนอักษรไทย ด้วยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน “อิสสีสิง” ลานแรก หัวลาน ระบุ “อิสิสิง ผูกโทนแล มีผูกเดียว” ท้ายลาน ระบุ “นิฏฺฐิตา กริยาอันกล่าวยัง อิสสีสิง ผูกโทน ก็บรมวล ควรแก่กาลเท่านี้ก่อนแล เสด็จแล้วตาวันบ่ายหน้อย ๑ หั้นแล รัสสภิกขุแก้ว แล นิพฺพาน ปจฺจโย โหตุ เม นิจฺจํ ธุวํ ธุวํ แก่ข้าแด่เทอะ หื้อข้าได้เถิงเนรพานเป็นยอดแด่เทอะ อันข้าได้สร้างหนังสือคำสอนแห่งพระพุทธเจ้านี้เกิดมาภาวะชาติใด พยาธิในตนตัวแห่งข้าอย่าหื้อมีสักภาวะชาติเทอะหื้อตนตัวข้างามยิ่งกว่าในพื้นฟ้าเหนือหน้าแผ่นดิน หาผู้จักเผียบเทียมบ่ได้ ปากต้านเจียรจาอันใดก็เป็นอันม่วนมากนัก ปากก็หอมเหมือนโอชารสดอกไม้อันหอมยิ่งกว่าหอม ” / ด้านหลัง ระบุ “๏ หน้าทับปลาย อิสสีสิง ผูกโทนแล” / “อาวหนานปอ บ้านนาหนองสร้างแล นายเหย นายเหย” หน้าปลาย ระบุ “ศรัทธาอาวหนานปอ พร้อมกับด้วยภริยาชื่อว่า นางอม อยู่บ้านนาหนอง ก็มีใจชมชื่นนินดีในศาสนาแล้ว ก็มาสร้างธรรมพระเจ้าอันชื่อว่า อิสสีสิง นี้ขอหื้อได้เถิงสุข ๓ ประการมีนิพพานเป็นยอดแด่เทอะ ฯ” / ด้านหลัง ระบุ “อิสสีสิง ม่วนสะหน้อยแลนายเอย”
หน้าต้น เขียนอักษรไทย ด้วยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน “จะนะสันทะ ผูก ๑” หน้าต้น ระบุ “ ชนสันธะ ผูกต้น มี ๔ ผูกกับกัน หนังสือวัดหนองบัวแล ๛” ลานแรก หัวลาน ระบุ “ชนสันธะ ผูกต้นแล” ท้ายลาน ระบุ “ชนสันธะ ผูกต้น ก็สมมุติด้วยเวลาเท่านี้ก่อนแล ๚ ชนสันธะ ผูกต้น หนังสือวัดหนองบัวแลท่านเหย ถ้วนถี่อาละเนอ ต้องพิจารณาดูหื้อถี่ถ้วนจริง จักรู้ได้เล่าพู้นเล่าเพ้ บ่รู้เรื่องราวดอกท่านเหย เป็นคำสอนถ้วนถี่ นักปราชญ์ผู้รู้ว่าม่วนเต็มทีเป็นร้างเป็นสาวฟังบ่ม่วนสักน้อย เขาบ่ชอบใจเขานา ฯฯ” หน้าปลาย เขียนอักษรไทย ด้วยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน “วัดหนามพุงดอ”
หน้าต้น ระบุ “หน้าทับเค้า ชนสันธะ ผูก ๒” / เขียนอักษรไทย ด้วยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน “จะนะสันทะ ผูก ๒” ท้ายลาน ระบุ “ชนสนฺธทุติยํ นิฏฺฐิตํ ก็สมเร็จเสด็จแล้วเท่านี้ก่อนแล ฯฯ๛ เสด็จแล้ววันเสาร์ บ่ายประมาณจัก ๓ โมง วันพระ แรม ๘ ค่ำ พร่ำว่าได้เดือน ๑๑ ıı แลนายเหย ปีมะเมีย ฉศก ตกอยู่ในวสันตฤดู ขอบุญช่วยค้ำข้าพเจ้าสู่พระนิพพานแลเทอะ โยมแพง แม่หาง เป็นศรัทธา ผู้ศรัทธาเอาลานมาหื้อรัสสภิกขุจัน แลนายเลย ธุวํ ธุวํ ๛”
หน้าต้น เขียนอักษรไทย ด้วยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน “จะนะสันทะ ผูก ๓” ลานแรก หัวลาน ระบุ “ชนสันธ ผูก ๓” ท้ายลาน ระบุ “ชนสนฺธตติยํ นิฏฺฐิตํ ก็แล้วเป็นห้องเท่านี้ก่อนแล ฯฯ๛” หน้าปลาย ระบุ “ชนสันธะ ผูก ๓” / เขียนอักษรไทย ด้วยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน “จะนะสันทะ ผูก ๓” “วัดหนามพุงดอ”
หน้าต้น ระบุ “ชนสันธะ ผูก ๔ แล” / ลานแรก หัวลาน ระบุ “ชนสันธะ ผูก ๔” ท้ายลาน ระบุ “ชนสนฺธชาตกํ สมตฺตํ สํวณฺณนา ชนสนฺธชาตก อันมีในทวาทสนิบาต ก็สมเร็จเสด็จแล้วเท่านี้ก่อนแล ฯฯ:๛ รัสสภิกขุบุร (บุญ?) บ้านเค้าม่วงเขียน ปางเมื่ออยู่วัดน้อยแคทราย แลนายเหย ข้าเขียนบ่ดีสักน้อย ลางตัวก็ใหญ่ ลางตัวก็น้อย บ่เท่ากันสักตัว แลนาท่านเหย ข้าขอกุศลนาบุญหื้อข้าจิ่มเทอะเนอ กับทั้งเจ้าของใบลานจิ่มเนอ แล้วอย่าไปด่าข้าอยากใคร่ได้บุญเต็มทีแลพี่น้องบ้านทั้งทั้งหลายทั้งศรัทธาตาปู่เหย เอาบุญกับข้าเนอ แล้วข้าขอแผ่ผายไปหาบิดามารดาข้าจิ่มเทอะ ๛ เสด็จปีมะเส็ง เดือน ๖ แรม ๖ ค่ำ วันสี่ ธงชัย แลนาท่านเหย หน้าทับเค้า ชนสันธะ ผูกถ้วน ๔ แแล นายเหย ๚ ๛ จบแล้วเท่านี้ก่อนแลนา”
หน้าต้น เขียนอักษรไทย ด้วยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน “หนังสืบจะตาบ้านเรือน” ท้ายลาน ระบุ “สฬากริวิชฺชาสุตฺตํ กริยาอันกล่าวสังวรรณนาอันแก้ไขยังสฬากริวิชชาสูตร อันมีในทิพมนต์ ก็สมเร็จเสด็จแล้วเท่านี้ก่อนแล ะ๛” / เขียนอักษรไทย ด้วยปากกาเมจิกสีน้ำเงิน “จบแล้วนะพระคุณเจ้าข้า ขอความสวัสดีแก่ท่านผู้อ่านทุกๆ รูปเถิด นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ”
หน้าต้น ระบุ “หน้าต้น วิชชานสูตร แลนายเหย” ท้ายลาน ระบุ “สฬากริวิชฺชาสุตฺตํ กริยาอันกล่าวห้องสังวรรณนาอันแก้ไขมายังสฬากริวิชชาสูตรอันมีในทิพมนต์ ก็แล้วเท่านี้ก่อนแล ฯฯı๛ เสด็จแล้วแล้วยามเมื่อจวนอยา[ก]เพล เวลานาฬิกา ๔ โมงกว่าแล้ว จบบริบูรณ์ เดือน ๔ แรม ๑๔ พร่ำว่าได้วันภะหัส ปีจอ จัตวาศก ตกอยู่ในคิมหันต์ฤดู เดือน ๔ พุทธศักราชล่วงได้ ๒๔๖๔ พระวัสสา รัสสภิกขุภอย บ้านห่าง เขียนหื้อโยมคำบ้านมะโก ไว้ในศาสนา ขอหื้อเพิ่นได้ดั่งใจเจตนา น ปจฺจโย โหตุ เม จบ ฯฯı๛”
หน้าต้น เขียนอักษรธรรมล้านนา ด้วยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน “(สลากริวิซาสุฑและ)” และอักษรไทย “(เก็บมาจากวัดทุ่งตาล) ข้าพเจ้าได้อ่านทานดูแล้วน่าใช้ได้ พระกิตติปาโล (ปุย) XXXพันธ์” ลานแรก หัวลาน ระบุ “วิชานสูตรแล” ท้ายลาน ระบุ “สฬากริวิชฺชาสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ กริยาสังวรรณนาอันแก้ไขยังสฬากริวิชชาสูตรอันมีในทิพมนต์ผูกเดียว ก็สมเร็จเสด็จบรมวลควรแก่กาลเท่านี้ก่อนแล ก็สมเร็จแล้วเดือน ๓ แรม ๗ ค่ำ พร่ำว่าได้วัน ๗ แลนายเหย เสด็จแล้วยามเมื่อจักใกล้ค่ำ ข้าขอกุศลนาบุญอันนี้ไปรอดไปเถิงบิตตามาดาครูบาอุปัชฌาย์อาจารย์แห่งข้านี้ชู่ผู้ชู่คนแด่เทอะ ส่วนว่าตนตัวข้านี้ขอสุข ๓ ประการ มีนิพพานเป็นที่แล้วเข้าสู่เวียงแก้วเวชไชย ขออย่าหื้อมีโรคาพยาธิเยื่องใด ข้าขอกุศลนาบุญอันนี้ไปได้ขวางหม้า (ควรเป็น หน้า) หับทับอบายภูมิทั้ง ๔ ขออย่าหื้อได้พบได้หันข้าขอหื้อได้พบพระอริยเมตไตยตนจักมาเกิดภายหน้านี้ จุ่งจักมีเที่ยงแท้ดีหลี คันว่ายังเวียนว่ายอยู่ในวัฏสงสารนี้อย่าหื้อได้ทุกได้ยากลำบากเหมือนชาตินี้เลย ธุวํ ธุวํ นิจฺจํ นิจฺจํ แก่ข้าเทอะ ตนตัวข้าเขียน ชื่อว่า รัสสภิกขุเตา เขียนปางเมื่ออยู่วัดนครบาลแล” (ตัวเอียง เป็นตัวเลขไทย)
หน้าต้น ระบุ “หน้าทับเค้า วิชาสูตร โยมไผ สร้างไว้ค้ำชูศาสนาพระโคตมเจ้าตราบต่อเนื่องอริยเมตไตย ขอมีความสุข ๓ ประการ มีนิพพานเป็นยอดแด่เทอะ ๛” ลานแรก หัวลาน ระบุ “หน้าทับเค้า นิพพานสูตร” เขียนอักษรธรรม ด้วยปากกาลูกลื่นสีดำ “วิชานสูต วิชานสูต” ท้ายลาน ระบุ “สฬากริวิชฺชาสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ กริยาสังวรรณนาอันกล่าวแก้ไขยังสฬากริวิ[ชชา]สูตร อันมีในทิพมนต์ผูกต้น ก็สมเร็จเสด็จบรมวลควรแก่กาลเท่่านี้ก่อนแล ๛