“วัดหนัง” หรือ “วัดหนังราชวรวิหาร” ตามประวัติวัดนั้นสร้างเมื่อ พ.ศ.2260 หรือช่วงรัชสมัยพระเจ้าท้ายสระ สมัยก่อนแถววัดหนังอยู่เขตอำเภอบางขุนเทียน จังหวัดธนบุรี เมื่อรวมธนบุรีเข้ามาเป็นกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก วัดหนังก็ย้ายเข้ามาอยู่ในเขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร ยังปรากฏป้ายเก่าของวัดขณะที่ยังสังกัดจังหวัดธนบุรีอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของวัด
วัดหนังเป็นวัดเก่าแก่ในย่านนี้ และมีวัดในแถบใกล้ๆ กันอีกหลายวัดจนมีเรื่องเล่าว่า วัดในแถบนี้มีวัดสามพี่น้องคือ วัดหนัง วัดนางนอน และวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร และที่ใกล้กันนั้นก็มีวัดศาลาครึนด้วย วัดนางนองราชวรวิหารและวัดราชโอรสารามราชวรวิหารนั้นบูรณะในสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งศิลปะที่ปรากฏอยู่ที่วัดนั้นส่วนใหญ่จะเป็นศิลปะแบบจีน ส่วนวัดหนังนี้พระราชมารดาของรัชกาลที่ 3 ทรงให้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดหนังขึ้นใหม่ แต่ให้มีความเป็นไทยผสมอยู่มากกว่าวัดนางนองและวัดราชโอรสารามฯ แต่ก็ยังมีศิลปะแบบจีนปนอยู่บ้าง
พิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษา วัดหนังราชวรวิหาร จัดตั้งขึ้นเพื่อให้ผู้เข้าชมได้ศึกษาเรียนรู้ วิถีชีวิต และประวัติความเป็นมาของพื้นที่ย่านเขตจอมทอง คิดริเริ่มและลงมือจัดทำช่วง พ.ศ.2545 สมัยพระธรรมศีลาจารย์เป็นเจ้าอาวาส โดยมีพระครูสมุห์ไพฑูรย์ สุภาฑโร (ปัจจุบันลาสิกขาบทแล้ว) และบรรดาลูกศิษย์ในย่านวัดหนังช่วยกันก่อตั้งและจัดหาวัตถุจัดแสดง
หน้าต้นเป็นวรรณคดีไทย โดยมีชื่อตัวละคร อาทิ พระสุริวงศ์ นางศุภลักษณ์ นางอุษา เป็นต้น ส่วนหน้าปลายเป็นการบันทึกเรื่องทั่วไป เนื้อหาไม่ปะติดปะต่อนัก
ตำรายาฉบับนี้ประกอบไปด้วยภาพแผนคน และจุดชี้บอกตำแหน่งรักษาอาการต่างๆ นอกจากนี้ตำรับสมุนไพรในการรักษาโรคต่าง ๆ เช่น ยาแก้หืด ยานวด ยามหาเมฆ ยาประสูติลูก ยาแก้รกมิออก ยาปลุกเลือด เป็นต้น
ใบลานขนาดสั้นกว่าปกติ สภาพชำรุดบางส่วน มีร่องรอยแมลงกัดแทะ แต่เนื้อหาโดยรวมยังอ่านได้ บันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับโรคและยารักษาโรค เช่น คัมภีร์วาโยธาตุ ยาต้มรักษาฝี ยาพอกฝี ยารุฝีหัวคว่ำ ยาเจ้าคุณยาณโกศล ยาทาน้ำเหลือง ยาเบญจขันธ์ ยากล่อนวิเศษ ยาแก้เตโชธาตุ ยาธาตุ ยาแก้ลมอัมพฤกษ์ ยาแก้ไอ ยาบำรุงธาตุบำรุงเลือด ยาเหลืองทิพคุณ ยาเขียวหอม ยาเขียวหัสคุณ ยาแก้ลิ้นกระด้างคางแข็ง เป็นต้น
ตำรายาเรื่องชวดารและอติสาร หน้าต้นกล่าวถึงคัมภีร์ชวดาร โรคลม ลมมีพิษ ลมมีพิษมาก และตำรับยาที่ใช้แก้ และหน้าปลายเป็นคัมภีร์อติสาร โรคที่ผู้ป่วยมีอาการท้องเสียอย่าง รุนแรง ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำ เป็นมูก เป็นเลือด อุจจาระมีกลิ่น ผิดปรกติ (อ้างอิงจาก https://ttdkl.dtam.moph.go.th/Dic_thai/frmc_dictionnary.aspx) วิธีการเขียนของเล่มนี้คือเขียนบนเส้นบรรทัดทั้งเล่ม