บริเวณวัดห้วยตะโกสันนิษฐานว่าเคยเป็นวัดเก่าแก่มาก่อน ต่อมาพระครูสังฆรักษ์ไพบูลย์ กตปุญโญ เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ได้เข้ามาบูรณะปฏิสังขรณ์วัดห้วยตะโก ท่านมีความสนใจศิลปะเขมร ท่านจึงมีแนวคิดที่จะผสมผสานรูปแบบศิลปะดังกล่าวเข้ามาไว้ในวัด โดยเฉพาะอุโบสถหลังใหม่ที่กำลังก่อสร้าง ท่านได้แนวคิดมาจากบรรณาลัยของปราสาทหินพนมรุ้ง
นอกจากนี้ท่านยังพยายามจะให้วัดห้วยตะโกเป็นศูนย์การเรียนรู้ของชุมชน มีมุมต่าง ๆ ที่ให้ความรู้ อาทิ เตาเผาสร้างอาชีพ ซึ่งเป็นมุมที่จัดเป็นสถานที่ผลิตอิฐเพื่อนำมาก่อสร้างโบสถ์องค์ปัจจุบัน มุมวาดลายไทย เป็นต้น
ข้อมูลจาก:
สำรวจภาคสนาม วันที่ 30 กรกฎาคม 2547
ข้อมูลพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นในจังหวัดนครปฐม ปี พ.ศ. 2546 ฉบับเนื้อหาโดยสังเขป. ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (เอกสารอัดสำเนา), 2546.
สมุดไทยฉบับนี้ ประกอบด้วย 2 เรื่องหลักๆ คือ เรื่องเกี่ยวกับตำรายาโรคลม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในคัมภีร์ชวดาร และอีกเรื่องคือ ตำรายาที่ใช้ในการคลอดบุตร และกรณีต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคัมภีร์ปฐมจินดา
ธรรมะซึ่งพระพุทธเจ้าทรงค้นพบและนำออกเผยแผ่ หรือคำสอนของพระพุทธเจ้า เกี่ยวกับความจริงตามธรรมชาติของทุกข์และวิธีการดับทุกข์ ธรรมะของพระพุทธเจ้านั้นแต่เริ่มสืบทอดกันด้วยวิธีท่องจำแบบปากต่อปาก ต่อมาจึงได้มีการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร
พระมาลัยกลอนสวดเริ่มด้วยบทนมัสการพระรัตนตรัย จากนั้นกล่าวถึงพระมาลัยเถระ ผู้มีอิทธิฤทธิ์ อยู่ที่โรหนชนบท ในลังกาทวีป วันหนึ่งพระมาลัยไปยังเมืองนรก พบสัตว์นรกถูกทรมานเพราะบาปกรรมของตน เช่น ผู้ทุบตีพ่อแม่ ตุลาการที่ตัดสินความไม่เที่ยงธรรม หญิงที่นอกใจสามี ข้าราชการที่ทุจริตเบียดเบียนประชาชน และสัตว์นรกที่ดื่มสุรา จากนั้นกล่าวถึงเปรตที่ในสมัยเมื่อยังมีชีวิตได้หลอกลวงเอาทรัพย์ของผู้อื่น เมื่อสิ้นอายุขัยจึงมารับกรรมเป็นเปรต ครั้นสัตว์นรกและเปรตเห็นพระมาลัยจึงขอให้พระมาลัยไปแจ้งแก่ญาติตนให้ละเว้นบาปและทำบุญอุทิศส่วนกุศลมาให้ตน จากนั้นกล่าวถึงชายเข็ญใจที่เก็บฝักบัวขายเลี้ยงมารดา ได้เห็นพระมาลัยก็เกิดศรัทธา นำดอกบัวมาถวาย พระมาลัยนำดอกบัวนั้นไปไหว้พระเจดีย์จุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และได้พบพระอินทร์ รวมทั้งเทวดาที่มานมัสการพระเจดีย์ พระมาลัยกล่าวถึงอานิสงส์ที่ทำให้ได้เกิดเป็นเทวดา ต่อมาพระมาลัยได้พบพระศรีอาริย์ พระศรีอาริย์เทศนาเรื่องบุญที่พระองค์ได้บำเพ็ญมา และทรงถามพระมาลัยถึงการทำบุญของชาวชมพูทวีป พระศรีอาริย์ทรงกล่าวว่าเมื่อจะสิ้นศาสนาพระโคดมพุทธเจ้าจะเกิดทุกข์ใหญ่ คนจะขาดศีลธรรม เกิดการฆ่าฟันกันไปทั่ว คนที่มีศีลธรรมที่หนีไปอยู่ในป่าเขาจะรอดชีวิต แล้วทรงแนะนำการทำบุญให้มาเกิดในศาสนาของพระองค์ พระมาลัยจึงนำคำแนะนำนั้นมาเทศนาแก่ประชาชนในชมพูทวีป ตอนท้ายกล่าวถึงชายเข็ญใจผู้นั้นได้ไปเกิดบนสวรรค์ มีวิมานที่มีกลิ่นหอม ส่วนพระมาลัยเมื่อสิ้นอายุขัยก็เข้าสู่พระนิพพาน ข้อมูลจาก : http://www.sac.or.th/databases/thailitdir/detail.php?meta_id=380
อภิธัมมัตถสังคหะ หมายถึง คัมภีร์ซึ่งรวบรวมเนื้อความของพระอภิธรรมทั้ง 7 คัมภีร์ ไว้โดยย่อ อันเปรียบเสมือนแบบเรียนเร็ว ต่อมามีผู้รู้ได้นำเอาคาถาในพระอภิธัมมัตถสังคหะมาสวดเป็นทำนอง สรภัญญะ (คือการสวดเป็นจังหวะสั้น ยาว) เรียกว่า สวดสังคหะ โดยนำเอาคำบาลีในตอนต้นและตอนท้ายของแต่ละปริจเฉท ซึ่งมีทั้งหมด 9 ปริจเฉทมาเรียงต่อกันเป็นบทสวด