หน้าต้น เขียนอักษรไทย ด้วยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน “ธรรมดาสอนโลก” ลานแรก หัวลาน เขียนอักษรธรรมล้านนา ด้วยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน “ธรรมดาสอนโลก” และอักษรไทย “ธรรมดาสอนโลก” ท้ายลาน ระบุ “กล่าวห้องธรรมดาสอนโลกอันตามอันย่ออันแคบ ก็แล้วเท่า[นี้]ก่อนแล กล่าวห้องธรรมดาสอนโลก ก็สมเร็จเสด็จแล้วเท่านี้ก่อนแล ๛ จบแล้วท่านเอย ปริปุณณา เสด็จแล้ว ฯ ฯ ฯ ” (ตัวเอียง จารด้วยอักษรขอมไทย)
หน้าต้น ระบุ “ หน้าทับเค้า หนังสือยอดไตรปิฏกะ ผูกเดียวแล :๛ หนังสือพ่อเฒ่าจอม บ้านใหม่กับแม่เฒ่าอูปแล” ท้ายลาน ระบุ “กล่าวห้องยอดไตรปิฏกทั้ง ๓ ก็แล้วเท่านี้ก่อนแล ะ นิพฺพาน ปจฺจโย โหตุ หนังสือยอดไตรปิฏกะ ผูกเดียวแล ท่านเหย ๚ เขียนสี่มือ กับกันแลท่านเหย เร่งเต็มที่ เขียนวันหนึ่งกับแถมบึดหนึ่งแลท่านเหย :๛ หนังสือพ่อเฒ่าจอมสร้าง พร้อมกันกับแม่เฒ่าอูปแลท่านเหย ๚ หางไก่ตอนปักก้นแช่ : บ่สู้งามแล : พอใช้แลท่านเหย ฯฯ”
หน้าต้น ระบุ “๚ หน้าต้น อนุโลกศาสนา แล ฯฯ” “เหลี่ยม” / เขียนอักษรไทย ด้วยปากกาลูกลื่นสีแดง “อนุโลกะเตสนา” ท้ายลาน ระบุ “๚ อนุโลกสาสนํ นิฏฺฐิตํ ๚ กริยาอันกล่าวห้อง อนุโลกศาสนา ก็สมเร็จเสด็จแล้วเท่านี้ก่อนแล ฯฯ๛”
หน้าต้น ระบุ “๏ หน้าทับเค้า อานุโลกแล๛ıı” / เขียนอักษรไทย ด้วยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน “อานุโล” หน้ารอง หน้าต้น ระบุ “ปู่ห้อง บาธัด หนังสือ ท่านสัน นายธินเขียน” / ด้านหลัง ระบุ “หนังสือท่านสัน วัดแจ้” ท้ายลาน ระบุ “อนุโลกสาสนํ นิฏฺฐิตํ กริยาอันกล่าวห้อง อนุโลกสาสนา ก็สมเร็จเสด็จแล้วเท่านี้ก่อนแล ๛ıı เสด็จแล้วยามใส่นาแลงแล เดือน ๑๐ แรม ๗ ค่ำ พร่ำว่าได้วันเสาร์แล อรหนฺตามคฺคญาณํ นิพฺพานํ ปจฺจโย โหตุ เมตฺ[เ]ตยฺย สนฺติเก อนาคเต นิจฺจํ นิจฺจํ ธุวํ ธุวํ แก่ข้าแด่เทอะ หลิจิงธวัน ıı๛ ขอส่วนบุญอันข้าได้สร้างธรรมผูกนี้ ขอหื้อไปหับทับประตุอบายภูมิทั้ง ๔ แด่เทอะ ขอไปรอดพ่อแม่ญาติพี่น้องวงศาครูบาอาจารย์ตัวข้าจิ่มเทอะ รัสสภิกขุภอย สร้างไว้ค้ำชูศาสนาพระโคตมเจ้าตราบต่อเท่าอายุแล ıı๛ ตกที่ใด้ช่วยใส่หื้อจิ่มแล ๛ นายเหย”
หน้าต้น ระบุ “๏ หนังสืออภิธรรมกัญแจ ผูกเดึยวแลนายเหย ๛” / เขียนอักษรไทย ด้วยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน “อภิธรรมกันแจ” ท้ายลาน ระบุ “กริยาอันเทศนาแก้ไขยังอริยอภิธรรมกัญแจผูกเดียว ก็บังคมสมเร็จเสด็จบรมวลควรกาลเท่านี้ก่อนแล ฯ๛ เสด็จแล้วปีฉลู เดือน ๑๑ แรม ๔ วันอังคาร เวลา ๕ โมงเช้าแล นายเหย ทุอาวเผือนเขียนหื้อโยมสอนบ้านนหนองปลาหมอ เพิ่นมีศรัทธาสร้างไว้กับลูกหลานญาติพี่น้องของเพิ่นแล ขอหื้อเพิ่นได้สมความนึกความปรารถนาชู่สิ่งชู่อันนั้นแด่เทอะ ฯ อภิธรรมกัญแจผูกเดียวแลนายเหย ข้าเขียนบ่ดี ขัดเพิ่นบ่ได้ ข้ากำลังหัดใหม่ ตัวบ่เท่ากัน อย่าไปแช่งข้าเนอ ฯฯ๛”
หน้าแรก หัวลาน ระบุ “พระกายละคร” ท้ายลาน ระบุ “ลังสือไกรภูมิของหลวงตากา สร้างไว้ในพระศาสนา ขอให้ได้ดังความปรารถนา ขอให้ กุสล กุศลอันนี้ ผู้ข้าได้สร้างพระไตรภูมินี้ จงไปเถิงลูกเมียญาติกาทั้งทั้งหลาย ขอให้ได้เข้าสู่นิพพานพร้อมกันทุกตนทุกตน ก็ข้าเทอญ นิพฺพาน ปจฺจโย โหตุ ıı กับทั้งข้าพเจ้าผู้ริจนาด้วยกัน ๔ คน ท่านมีใหญ่ องค์ ๑ ท่านมีน้อย องค์ ๑ ขอให้เป็นญาติติดกันทุกชาติ ๆ ทั้งชาตินี้แลชาติหน้า ตราบเท่าเข้าสู่นิพพาน ขอให้ได้พบพระศรีอาริยเมตไตยเจ้า องค์จักมาโปรดสัตว์นำเข้าสู่พระมหานครนิรพาน นิพฺพาน ปจฺจโย โห โห แล้วแล เจ้าข้าเอย ıı๛”
หน้าต้น เขียนอักษรไทย ด้วยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน “กายนคร” หน้ารอง หน้าต้น ระบุ “ หน้าทับเค้า หนังสือกายนครโทน ผูกเดียว ฯ ข้าผู้สร้างชื่อว่า ฯ สีวิสุทโธ อยู่บ้านปู่ฟ้า ข้าขอหื้อได้เป็นอรหั[น]ตสาวก ต จะ ตัดกิเลสวัตถุกามหื้อขาด ฯ” ท้ายลาน ระบุ “กริยาอันกล่าวยังธรรมเทศนาอันชื่อว่า กายนคร ก็สมเร็จเสด็จแล้วเท่านี้ก่อนแล ๚ ๚ บริบูรณ์ เสด็จแล้วยามตาวันบ่าย ๕ โมงค่ำแล วันเสาร์ เดือนยี่ ปีมะแม ข้าเขียนหนังสือผูกนี้ ขอส่วนกุศลนาบุญไปรอดไปเถิงปิตามาดาญาติทั้งหลายทั้งผู้สร้างแล ผู้เขียนจิ่มเทอะ นิพฺพาน ปจฺจโย โหตุ เขียนหื้อทุอาสม ฯฯ๛” หน้าปลาย ระบุ “หน้าทับปลาย กายนคร ผูกเดียว ม่วนอาละแลเนยหาย เป็นตาดีอายเด ทุอาวสมเหย เขียนบ่ได้ดีหลายแล ฯฯ๛”
หน้าต้น ระบุ “ หน้าทับเค้า ปุณณนาคกุมาร แลนายเหย ฯฯ๛ ๚ มีผูกเดียวแล” / เขียนอักษรไทย ด้วยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน “บุณฺณนาคกุมฺมาน” ท้ายลาน ระบุ “ปุณฺณนาคกุมารราชชาตกํ นิฎฺฐิตํ ıı กริยาอันกล่าวยังปุณณนาคกุมารผูกเดียว ก็สมเร็จเสด็จแล้วเท่านี้ก่อนแแล ฯฯ๛” หน้าปลาย เขียนอักษรธรรมล้านนา ด้วยดินสอ “ข้าว ๒๐ โXมเนือง”
หน้าต้น ระบุ “ıı หน้าทับเค้า หนังสือ ปุณณนาคกุมาร ม่วนดีมีผู้เดียวแล นายเหย ฯıı ๒๑ ล้าน อ้ายหนานสร้างไปหื้อ” (ตัวเอียง จารด้วยอักษรไทย) / เขียนอักษรไทย ด้วยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน “เรื่องทอดกฐิน บุนะคะกุมาร ปุณณกกุมาร” ท้ายลาน ระบุ “ปุณฺณนาคราชชาตกํ นิฏฺฐิตํ กริยาอันกล่าวยังปุณณนาคกุมารผูกเดียว ก็สมเร็จเสด็จแล้วเท่านี้ก่อนแล ฯıı๛ เสด็จแล้วจับยามใกล้จักเพล เดือน ๑ กลางเดือน ตัวบ่ดีสักน้อย อย่าไปด่าข้อยเนอ เพราะฟั่งเขียน อยากใคร่สิกข์ เต็มที ıฯ โอ้ละหนอ จุ่นบุ่น แม่ทูนหัวเหย พี่คั่วทอด น้องกินข้าว ก็เป็นความสะมัก กินผักเดก็เป็นความสะท้อน ความย้อนทั้งเจ้าจ่มหาแกมดอกดูข้อย ขนครัวชูเป็นลูกเขย สู่อีแม่เจ้า ๚ ๛”